Members

ไสใส Saisai คือคาเฟ่ในกรุงเทพฯ ที่สร้างแนวคิด “Shaved Ice and Beyond” โดยนำวัตถุดิบจากท้องถิ่นมาเป็นหัวใจของเมนู เช่น น้ำตาลสดจากงวงจาก, นมควาย, ผลิตภัณฑ์จากชุมชน เช่น ผลไม้สด, เซรัปจากกาแฟ, เจลลี่กาแฟ, และอื่น ๆ รวมถึงยังร่วมมือกับแบรนด์ท้องถิ่นอย่าง Roots และ Ae Sae เพื่อสร้างสรรค์เมนูสร้างสรรค์ที่ช่วยเชื่อมโยงผู้บริโภคกับวัตถุดิบต้นทางและสร้างมูลค่าทางสังคม

แนวคิดของร้านคือ “Make it Mainstream Social Enterprises” — ต้องการให้ความเป็นท้องถิ่นเป็นที่รู้จักกว้างขวาง และช่วยกระจายรายได้จากวัตถุดิบพื้นบ้านให้เติบโตอย่างยั่งยืน

School of Changemakers เป็นธุรกิจเพื่อสังคมในประเทศไทยที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2017 โดยคุณ Phonchan (Newey) Kraiwatnutsorn ผู้ที่ร่วมงานกับ Ashoka มานานกว่า 10 ปี

โรงเรียนนี้มีบทบาทเป็น social incubator ที่สร้างระบบสนับสนุนนักเปลี่ยนแปลง (changemakers) ผ่านโปรแกรมบ่มเพาะ การฝึกอบรม และแพลตฟอร์มให้ความรู้ที่เน้นการออกแบบกระบวนการคิด ระบบ และแนวทางแก้ปัญหาที่ยั่งยืนและมีประสิทธิภาพ 

องค์กรยังทำงานร่วมกับเครือข่ายผู้สอนในระดับมหาวิทยาลัยและโรงเรียนทั่วประเทศไทย เพื่อเปลี่ยนหลักสูตรและกิจกรรมนอกหลักสูตรให้กลายเป็นพื้นที่บ่มเพาะ “นักเปลี่ยนแปลง” โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างระบบนิเวศแห่งการเปลี่ยนแปลงที่เข้มแข็งและยั่งยืนในสังคม

Dots Coffee คือร้านกาแฟในกรุงเทพฯ ที่มีความพิเศษไม่เหมือนใคร เนื่องจากเป็นแบรนด์ร้านกาแฟแนว social enterprise แห่งแรกของโลกที่ดำเนินงานโดยพนักงานที่มีความบกพร่องทางสายตา—ทั้งบาริสต้าและทีมบริการเป็นผู้พิการทางสายตาหรือผู้ที่ตาบอดอย่างรุนแรงทั้งหมด ซึ่งดูแลกระบวนการทั้งหมดตั้งแต่รับออเดอร์ จ่ายเงิน ไปจนถึงการชงเครื่องดื่ม

ด้วยแนวคิด “Coffee made better” Dots Coffee มุ่งผลักดันการยอมรับ ความเท่าเทียม และศักยภาพของคนพิการทางสายตาในแวดวงบริการ อีกทั้งยังได้รับความสนใจจากสื่อฝ่ายสังคม เช่น รายการข่าวของ PBS Asia และสื่ออื่น ๆ ที่พูดถึงเรื่องความคิดสร้างสรรค์และการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกในโลกกาแฟ

โครงการร้อยรอยยิ้ม (ROYROIYIM) คือโครงการที่ริเริ่มขึ้นเพื่อดูแลและส่งเสริมสุขภาพช่องปากให้แก่กลุ่มเปราะบางในสังคมไทย โดยใช้คลีนิกรถทันตกรรมเคลื่อนที่ “Smile Express” ซึ่งสามารถเดินทางไปให้บริการได้ถึงกลุ่มผู้สูงอายุ ผู้พิการ เด็ก เยาวชน ผู้มีรายได้น้อย และแม้แต่พระภิกษุสงฆ์ในพื้นที่ที่ขาดการเข้าถึงบริการทันตกรรม

โครงการนี้สร้างมิติทางสังคมด้วยการประสานความร่วมมือกับภาคส่วนต่าง ๆ เช่น มูลนิธิ โตโยต้า ประเทศไทย และองค์กรอื่น ๆ เพื่อขยายโอกาสในการเข้าถึงบริการด้านสุขภาพช่องปาก สร้างรอยยิ้มและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นให้กับผู้คนในพื้นที่ขาดโอกาส

The GALLERY ดำเนินการโดย Asset World Foundation for Charity และทำหน้าที่เป็นแพลตฟอร์มจัดจำหน่ายผลงานศิลปะและงานฝีมือคุณภาพสูงจากศิลปิน ดีไซเนอร์ และชุมชนไทย ผ่านแนวคิด “Giving Art, Art of Giving” ซึ่งหมายถึงการให้ศิลปะและการสร้างคุณค่าไปพร้อมกัน ทุกยอดขายไม่เพียงแต่ส่งเสริมรายได้ให้กับผู้สร้าง แต่ส่วนกำไรยังถูกนำไปจัดตั้งทุนการศึกษาให้กับนักศึกษาในสายศิลปะและการออกแบบ

The GALLERY มีสาขากว่า 17–19 แห่ง ตั้งอยู่ตามโรงแรม รีสอร์ต และทำเลสำคัญ เช่น The Empire ในกรุงเทพฯ, Asiatique, Le Meridien, Meliá Chiang Mai, Banyan Tree Krabi และอื่น ๆ ซึ่งเป็นทั้งหน้าร้านและชุมชนศิลปะที่เชื่อมผู้ซื้อกับเรื่องราวของผู้สร้างผลงานอย่างใกล้ชิด

Jaikla (Orgafeed Co., Ltd.) เป็นบริษัทในกรุงเทพฯ ที่ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2560 (2017) โดยดำเนินธุรกิจผลิตขนมและอาหารสุนัขจากโปรตีนแมลง (Black Soldier Fly larvae) และวัตถุดิบจากเศษอาหารที่ได้จากซูเปอร์มาร์เก็ต จึงถือเป็น “bio-converters” ที่เปลี่ยนขยะอาหารให้กลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงสำหรับสัตว์เลี้ยง

บริษัทสร้างระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน (circular economy) โดยรับเศษอาหารจากซูเปอร์มาร์เก็ต ช่วยลดขยะ พร้อมทั้งส่งมอบปุ๋ยชีวภาพจากกระบวนการผลิตให้กับเกษตรกร ซึ่งเสริมสร้างมิติทางสังคม ไม่เพียงผลักดันความยั่งยืน แต่ยังสร้างแรงกระเพื่อมให้กับเกษตรกรและระบบชุมชน

Ephrata Music ดำเนินงานในรูปแบบของกิจการด้านดนตรีในกรุงเทพฯ โดยมีแนวคิด “ดนตรีพัฒนาสมอง” เพื่อส่งเสริมพัฒนาการทางปัญญา สร้างความสัมพันธ์ระหว่างผู้คน และเติมเต็มชีวิตชีวาผ่านเสียงเพลง พัฒนาความรู้สึก สุขภาพกาย-ใจ และความเป็นชุมชนแบบสร้างสรรค์

เป็นองค์กรที่พัฒนานวัตกรรมด้านดนตรีและการเคลื่อนไหว เพื่อนำดนตรีบำบัดประยุกต์ไปสู่กลุ่มผู้เปราะบาง โดยเฉพาะผู้สูงอายุและผู้พิการ ดนตรีไม่เพียงแต่ช่วยเยียวยาจิตใจ แต่ยังสร้างชีวิตชีวาและส่งเสริมสุขภาวะที่ดีให้กับผู้คน เอฟราทามิวสิคได้รับการยอมรับในระดับสากล รวมถึงได้รับดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์จาก UIPM ซึ่งเป็นหน่วยงานของสหประชาชาติ ตอกย้ำถึงความสำคัญของดนตรีในฐานะเครื่องมือช่วยสร้างความเป็นอยู่ที่ดีและลดความเหลื่อมล้ำในสังคม

นอกจากงานด้านดนตรีบำบัด เอฟราทามิวสิคยังให้บริการ CSR Solution สำหรับองค์กรที่ต้องการทำกิจกรรมเพื่อสังคม โดยออกแบบโปรแกรม Team Building ที่ช่วยเสริมสร้างความสามัคคีในองค์กร พร้อมกับส่งต่อประโยชน์สู่ชุมชนที่มีผู้เปราะบาง เป้าหมายของเราคือการผลักดันสิทธิมนุษยชนของผู้สูงอายุและผู้พิการ ให้พวกเขาสามารถเข้าถึงโอกาสทางอาชีพ สุขภาพ และการศึกษาที่เหมาะสม อีกทั้งยังสร้างความตระหนักรู้ให้กับสังคม เพื่อให้ทุกคนมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาและสร้างความเท่าเทียมกันในสังคม

หจก.ลิ้มรสให้รู้ราก เป็นวิสาหกิจเพื่อสังคมแบบไม่แสวงหากำไร ที่มุ่งเน้นการรักษาและต่อยอดภูมิปัญญาท้องถิ่นผ่านอาหาร วัฒนธรรม และการสื่อสาร เรามีรายได้จากสามช่องทางหลัก ได้แก่ การพัฒนาสินค้าอาหารที่สะท้อนรากเหง้าของท้องถิ่น เช่น น้ำตาลโตนดสุโขทัย น้ำปลา และน้ำผึ้ง บริการด้านการท่องเที่ยวและที่ปรึกษาแบรนด์ รวมถึงงานสร้างสื่อ เช่น หนังสือ ภาพถ่าย และวิดีโอเพื่อเล่าเรื่องราวของชุมชน รายได้จากธุรกิจเหล่านี้ถูกนำไปพัฒนาโครงการเพื่ออนุรักษ์วิถีชีวิตของผู้คนในชุมชน ให้คงอยู่และเติบโตต่อไปอย่างยั่งยืน

เรามุ่งมั่นในการใช้ “อาหาร” เป็นสื่อกลางในการถ่ายทอดวัฒนธรรมและภูมิปัญญา เพราะเราเชื่อว่าอาหารสามารถเล่าเรื่องราวและสร้างการเปลี่ยนแปลงได้อย่างทรงพลัง เราทำงานร่วมกับกลุ่มชุมชน กลุ่มชาติพันธุ์ และธุรกิจเพื่อสังคม เพื่อแก้ไขปัญหาในด้านเศรษฐกิจ การจ้างงาน ความยากจน รวมถึงสิ่งแวดล้อมและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ นอกจากนั้น เรายังใช้การสื่อสารผ่านสื่อต่างๆ เช่น ภาพถ่าย สารคดี และกิจกรรม เพื่อนำเสนอเรื่องราวของชุมชนให้เข้าถึงผู้คนได้ง่ายขึ้น ลิ้มรสให้รู้รากจึงเป็นทั้งพื้นที่ในการเรียนรู้ สำรวจ และส่งต่อคุณค่าแห่งภูมิปัญญาไทย ผ่านทุกจานอาหารและทุกเรื่องราวที่เราสร้างสรรค์

H Academy จัดเวิร์กช็อปแนว Play & Learn ที่กระตุ้นการเป็นผู้นำ (leadership) ส่งเสริมการทำงานเป็นทีม และปลูกฝังแนวคิดผู้ประกอบการ (entrepreneurial mindset) ผ่านการเรียนรู้ที่ผสมผสานกิจกรรมสนุกสนานและจำลองสถานการณ์จริง (playful workshops) ที่ออกแบบมาให้ผู้เรียนได้ลงมือจริงอย่างมีส่วนร่วม

แนวทางการเรียนรู้ของ H Academy มุ่งสร้างทักษะสำคัญในโลกยุคใหม่ เช่น การคิดเชิงวิเคราะห์ (critical thinking) และทัศนคติเชิงบวก ผ่านบรรยากาศการเรียนรู้ที่ปลอดภัยและสนุกสนาน (hand, head, heart) ช่วยเปลี่ยนผู้เรียนให้กล้าคิด กล้าทำ และกล้าเป็นผู้นำในบริบทต่าง ๆ

บริษัท แซนด์บ็อกซ์ เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด หรือ Sandbox Air เป็นธุรกิจเพื่อสังคมที่มุ่งเน้นการสร้างระบบนิเวศเพื่อการเรียนรู้และพัฒนาศักยภาพของคนทุกวัย โดยเฉพาะกลุ่มเด็กและเยาวชน บริษัทดำเนินการผ่านการจัดทำโครงการด้านการศึกษาและกิจกรรมเชิงสร้างสรรค์ที่ออกแบบให้ตอบโจทย์ความสนใจของผู้เรียนแต่ละคน ทั้งด้านทักษะชีวิต ทักษะอาชีพ และการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ Sandbox Air ใช้แนวคิดการเรียนรู้ที่เน้นการลงมือทำและแก้ปัญหาในสถานการณ์จริง เพื่อให้ผู้เรียนสามารถนำความรู้ไปใช้สร้างประโยชน์ให้กับตนเองและชุมชนได้

ผลกระทบที่สำคัญคือการสร้างเยาวชนที่มีทักษะและความพร้อมในการเผชิญกับความท้าทายของโลกยุคใหม่ พร้อมเสริมสร้างความเท่าเทียมทางการศึกษาโดยเปิดโอกาสให้กับเด็กในพื้นที่ห่างไกลหรือผู้ที่มีข้อจำกัดทางการเข้าถึงทรัพยากร Sandbox Air ยังส่งเสริมการมีส่วนร่วมของชุมชนในกระบวนการเรียนรู้ ช่วยสร้างความเข้มแข็งให้กับครอบครัวและชุมชนท้องถิ่น ในขณะเดียวกัน โครงการต่าง ๆ ยังช่วยลดความเหลื่อมล้ำด้านโอกาสทางการศึกษาในสังคมไทยอย่างยั่งยืน

สถาบันออกแบบนานาชาติชนาพัฒน์ (Chanapatana International Design Institute) มุ่งเน้นการพัฒนาศักยภาพด้านการออกแบบและความคิดสร้างสรรค์ เพื่อสร้างนักออกแบบมืออาชีพที่สามารถแข่งขันได้ในระดับสากล สถาบันดำเนินธุรกิจเพื่อสังคมด้วยการเปิดโอกาสทางการศึกษาแก่ผู้ที่สนใจในสาขาการออกแบบ ทั้งด้านแฟชั่น การตกแต่งภายใน และการออกแบบผลิตภัณฑ์ โดยนำเสนอหลักสูตรคุณภาพสูงจากผู้เชี่ยวชาญทั้งในและต่างประเทศ พร้อมมอบทุนการศึกษาและสนับสนุนกิจกรรมสร้างแรงบันดาลใจให้แก่เยาวชนและผู้ด้อยโอกาสในสังคม

ผลกระทบที่สำคัญของสถาบันคือการยกระดับอุตสาหกรรมการออกแบบในประเทศไทย สร้างนักออกแบบรุ่นใหม่ที่มีความสามารถและทักษะในการแก้ปัญหาสังคมผ่านงานสร้างสรรค์ นอกจากนี้ สถาบันยังส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจชุมชนผ่านโครงการที่เชื่อมโยงนักออกแบบกับชุมชนท้องถิ่น เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์พื้นบ้านให้ทันสมัยและตรงกับความต้องการของตลาดโลก เป็นการสร้างรายได้ให้กับชุมชนพร้อมอนุรักษ์วัฒนธรรมไทยไปในตัว อีกทั้งยังช่วยเสริมสร้างเครือข่ายนักออกแบบและธุรกิจที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน

YAYEE (ยาหยี) คือธุรกิจเพื่อสังคมในภาคใต้ของประเทศไทย ที่สะท้อนศิลปะและวัฒนธรรมเปอรานากันของภูเก็ตผ่านแฟชั่นอันมีเอกลักษณ์ ตั้งแต่ปี 2016 โดยนำ “ผ้าปาเต๊ะ” มาออกแบบเป็นเสื้อผ้าและเครื่องแต่งกายเก๋ ๆ ที่สืบสานภูมิปัญญาท้องถิ่นและสร้างงานให้กับชุมชนดีไซเนอร์และช่างท้องถิ่นในพื้นที่

YAYEE ใช้แนวคิด “Make Local to Global” มุ่งเน้นการยกระดับงานหัตถกรรมให้เข้าถึงตลาดระดับโลก ภายใต้วิสัยทัศน์ที่นำเสนอวัฒนธรรมภูเก็ตอย่างสร้างสรรค์และมีคุณภาพ พร้อมสร้างความภาคภูมิใจในคุณค่าท้องถิ่น โดดเด่นด้วยการออกแบบที่มีความร่วมสมัยและเรื่องเล่าทางวัฒนธรรมอย่างลึกซึ้ง
Yayee Phuket
Facebook

Siam Able Innovation ก่อตั้งขึ้นในปี 2019 ในจังหวัดสุพรรณบุรี เป็นธุรกิจเพื่อสังคม (Social Enterprise) ที่มุ่งพัฒนานวัตกรรมอุปกรณ์ช่วยเหลือผู้พิการและผู้สูงอายุ เช่น เก้าอี้ล้อเลื่อนไฟฟ้า, เตียงผู้ป่วยไฟฟ้า, สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า และเครื่องยกผู้ป่วย เพื่อปรับปรุงคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้นในราคาที่เข้าถึงได้

องค์กรดำเนินกิจการภายใต้หลักความร่วมมือ โดยให้ผู้พิการและชุมชนมีส่วนร่วมในกระบวนการสร้างสรรค์งาน ตั้งแต่การประกอบจนถึงการสอนงาน ช่วยสร้างโอกาสการจ้างงานและลดความเหลื่อมล้ำในสังคม นอกจากนี้ ยังได้รับการยอมรับว่าเป็นธุรกิจเพื่อสังคมที่ขับเคลื่อนสังคมที่ทุกคนอยู่ร่วมกันได้อย่างมีศักดิ์ศรี

MuvMi คือสตาร์ทอัปที่พัฒนาแพลตฟอร์มการเดินทางแบบออนดีมานด์ผ่าน ตุ๊กตุ๊กไฟฟ้า (EV tuk-tuks) โดยผสมผสานเทคโนโลยี AI สำหรับคำนวณเส้นทางแบบรวดเร็ว ระบบ IoT เพื่อจัดการฟลีต และมุ่งเคลื่อนที่เชื่อมต่อในเขตเมืองได้อย่าง สะดวก ปลอดภัย และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

บริการของ MuvMi ครอบคลุมทั้งกลุ่มนักท่องเที่ยว (เช่น One Day Pass และ Private Tour) ผู้โดยสารทั่วไป (แบบแชร์หรือเหมาคัน), บริการรับส่งแบบรายเดือนสำหรับองค์กร (Shuttle Service), บริการส่งสินค้า (MuvThing), การโฆษณาบนรถตุ๊กตุ๊ก (MuvAds) และระบบให้เช่าหรือจัดซื้อรถตุ๊กตุ๊กไฟฟ้า (BizNex)

จนถึงปี 2024 MuvMi มีฟลีตมากกว่า 600 คันใน 12 โซนของกรุงเทพฯ และให้บริการแพลตฟอร์มเพื่อเชื่อมต่อการเดินทาง “first‑ and last‑mile” ผ่านแอปพลิเคชันมือถือ
ด้านผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม MuvMi สามารถลดการปล่อยก๊าซ CO₂ ได้มากกว่า 1,200 ตัน โดยเน้นใช้พลังงานสะอาดและลดการปล่อยมลภาวะจากการเดินทางวันต่อวัน
MuvMi

นอกจากนี้ MuvMi ยังส่งเสริมความก้าวหน้าทางสังคม โดยสร้างงานให้กับผู้ขับตุ๊กตุ๊ก และเฉพาะผู้ขับที่มีอายุหรือคุณผู้หญิงก็มีสัดส่วนที่น่าสนใจ — เช่น ผู้ขับอาวุโสประมาณ 15% และผู้หญิงอีก 5% ของฟลีตทั้งหมด

บริษัท บ้านคนพิเศษ วิสาหกิจเพื่อสังคม จำกัด คือธุรกิจเพื่อสังคมในจังหวัดชลบุรี เน้นส่งเสริมการสร้างงานและอาชีพให้แก่คนพิการ ผู้ด้อยโอกาส และแม่เลี้ยงเดี่ยวที่มีบุตรพิการ โดยเป็นกิจการเพื่อสังคมแบบ 100% ที่ไม่คืนเงินปันผลให้ผู้ถือหุ้น กำไรทั้งหมดจากการจำหน่ายสินค้าและบริการจะถูกนำกลับมาใช้เพื่อสร้างประโยชน์สูงสุดแก่สังคม

บริษัทผลิตสินค้ามีคุณภาพ เช่น ทองม้วน ขนุนทอดกรอบ ผ้าทอสาโอริ พรมเช็ดเท้า ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด สินค้ากรอบกระดาษ และของที่ระลึก โดยใช้ทรัพยากรภายในชุมชนเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในชุมชนรอบข้าง ผู้ที่ได้รับประโยชน์ได้มีรายได้เพิ่มขึ้นคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และเกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจในพื้นที่อย่างยั่งยืน

Stories of Silver คือธุรกิจเพื่อสังคมจากจังหวัดลำพูน ที่สร้างสรรค์เครื่องประดับเงินร่วมสมัยระดับสูง (95–99% silver) ด้วยงานหัตถศิลป์ของช่างบ้านป่าราบห้วยต้อม—ชุมชนชาวกะเหรี่ยง ผู้ตั้งอยู่ในหมู่บ้านกินเจแห่งเดียวของประเทศ โดยนำภูมิปัญญาการทำเงินดั้งเดิมมาพัฒนาต่อยอดสร้างสรรค์งานแฟชั่นทันสมัยที่สะท้อนความงดงามทั้งภายนอกและภายใน

งานออกแบบของ Stories of Silver ไม่เพียงแต่นำเสนอ “ความงามเกินสายตา” (Beauty beyond the visible) แต่ยังสะท้อนความหมายและสติมีสติผ่านลวดลายที่สื่อสารเรื่องราว วัฒนธรรม และความรอบคอบ บรรจุลงในเครื่องประดับที่ใส่แล้วรู้สึกมีคุณค่าในทุกย่างก้าว ทุกชิ้นสอดแทรกคุณค่าทางจิตใจ พร้อมสืบสานภูมิปัญญาท้องถิ่นอย่างยั่งยืน

Jutatip คือแบรนด์ที่เชี่ยวชาญด้านผ้าฝ้ายทอมือคุณภาพสูง โดยย้อมด้วยสีธรรมชาติ ผลิตจากชุมชนในจังหวัดขอนแก่น งานของแบรนด์โดดเด่นด้านคุณภาพผ้า—เนื้อฝ้ายนุ่ม เบาสบาย ระบายอากาศได้ดี และมีสีสันสวยงามที่เป็นเอกลักษณ์ของธรรมชาติ

นอกจากนี้ Jutatip ยังให้ความสำคัญกับการส่งเสริมอาชีพในชุมชน เปิดโอกาสให้ผู้ผลิตในพื้นที่ได้มีรายได้จากงานหัตถกรรม และเชื่อว่าการเลือกใช้ผ้าที่มีคุณภาพจากธรรมชาติ สามารถช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้อีกระดับหนึ่ง

JubJaai คือแพลตฟอร์มธุรกิจเพื่อสังคมจากประเทศไทย (ดำเนินงานโดย ป.ปัน วิสาหกิจเพื่อสังคม) ที่สร้างขึ้นเพื่อช่วยผู้ประกอบการชุมชนและ OTOP เข้าถึงตลาดออนไลน์ได้อย่างเท่าเทียม โดยรวบรวมผลิตภัณฑ์คุณภาพจากทั่วประเทศมาไว้ในที่เดียว พร้อมโปรโมชั่นและดีลที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่

แพลตฟอร์ม JubJaai.com ยังได้จับมือกับหน่วยงานสำคัญหลายแห่ง เช่น กรมการพัฒนาชุมชน และไปรษณีย์ไทย ดิสทริบิวชั่น เพื่อมอบส่วนลดค่าขนส่ง และพัฒนาช่องทางขายให้ครอบคลุมมากขึ้น โดยเฉพาะช่วงวิกฤตโควิด-19 ที่ช่วยให้ผู้ประกอบการชุมชนยังคงมีรายได้และเข้าถึงตลาดได้อย่างยั่งดียิ่งขึ้น

The Next Forest ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2565 (2022) โดยเป็นธุรกิจเพื่อสังคมที่มีเป้าหมายหลักในการฟื้นฟูป่าและสิ่งแวดล้อมผ่านการใช้วิธี “framework species” ซึ่งเป็นการปลูกต้นไม้ท้องถิ่นเพื่อคืนระบบนิเวศและความหลากหลายทางชีวภาพ พร้อมให้คำปรึกษาเพื่อดำเนินการโครงการฟื้นฟูป่าร่วมกับภาคเอกชนและรองรับการพัฒนาพื้นที่ในเชิงยั่งยืน

องค์กรยังผสมผสานเทคโนโลยีเพื่อการจัดการป่าไม้และสร้างความรู้ด้านสิ่งแวดล้อมผ่านการศึกษาในพื้นที่ โดยมุ่งหวังให้เกิดผลกระทบเชิงบวกต่อสังคมและเปลี่ยนแปลงมาตรฐานการจัดการทรัพยากรธรรมชาติให้ยั่งยืนยิ่งขึ้น

MBH Made By Heart คือกลุ่มศิลปินผู้มีความพิเศษทางด้านพัฒนาการ (special needs artists) และกลุ่มแม่ผู้ดูแลที่ทุ่มเทแรงกายแรงใจ ผ่านงานศิลปะที่สะท้อนความรัก การเชื่อมโยง และการเติบโตระหว่างแม่และลูก เพื่อสร้างพื้นที่แห่งความภาคภูมิใจ การเรียนรู้ และการยอมรับความแตกต่างของแต่ละบุคคล โดยเฉพาะในบริบทของความหลากหลายและสังคมการดูแลร่วมกัน

กลุ่มได้รับการสนับสนุนจาก MBH Made By Heart Co., Ltd. ซึ่งเป็นสมาชิกของ SE Thailand — Social Enterprise Thailand Association และทำงานร่วมกับมูลนิธิเรดูมพราลิสต์เพื่อคนพิการ (Redemptorist Foundation for People with Disabilities) เพื่อสร้างโอกาสทางศิลปะและอาชีพ รวมถึงสร้างความเปลี่ยนแปลงทางสังคมผ่านการจัดแสดงงาน “I to Us” ที่จัดโดย BACC

HazeFree Social Enterprise เป็นกลุ่มที่ส่งเสริมและจำหน่ายผลผลิตทางการเกษตรที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม—ทั้งผัก ผลไม้ และสินค้าอาหารปลอดภัยจากกลุ่มเกษตรกรในพื้นที่ต่าง ๆ เช่น อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเน้นความโปร่งใสและความยั่งยืนในการบริโภค โดยเปิดพรีออเดอร์ผลไม้สดใหม่ เช่น อะโวคาโดพันธุ์แฮส ส้มสายน้ำผึ้ง และหัวหอมอินทรีย์จากสวนเกษตรกรในพื้นที่

องค์กรนี้ยังเป็นสมาชิกเครือข่าย SET Social Impact ซึ่งสนับสนุนและส่งเสริมธุรกิจเพื่อสังคม โดยมีเป้าหมายในการสร้างโอกาสให้กลุ่มเปราะบางผ่านเศรษฐกิจที่ยุติธรรม

Agnos Health ก่อตั้งในปี 2019 ที่กรุงเทพฯ โดยคุณ Paphonwit Chaiwatanodom และ Palita Visanuyothin เป็นธุรกิจสตาร์ทอัปด้าน Health Tech ที่พัฒนา แอป AI ช่วยวิเคราะห์อาการ (AI-based symptom tracking app) ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถบรรยายอาการด้วยภาษาธรรมชาติ และรับคำแนะนำด้านสุขภาพเฉพาะบุคคลในสไตล์เหมือนพบแพทย์

บริการเด่นของ Agnos Health ได้แก่:
AI Self‑Diagnosis — วิเคราะห์อาการและปัจจัยความเสี่ยงสำหรับผู้ใช้งาน
Smart OPD — ระบบ AI ช่วยปรับปรุงกระบวนการผู้ป่วยนอก
ค้นหาแพทย์/คลินิก — ฐานข้อมูลแพทย์และโรงพยาบาลในประเทศไทย

Agnos ยังมีโครงการ “AI Smart Primary Care” ศูนย์กลางด้านปฐมภูมิ ที่ได้รับการนำเสนอในเวทีสำคัญ

SarnSard เป็นแบรนด์คราฟต์จากภาคใต้ของประเทศไทย (ตรัง) ที่ก่อตั้งโดย กุ๊กไก่–มนัสนันท์ ทวีวรสุวรรณ (Art Director) และ เป็ด–วิศรุต ทวีวรสุวรรณ (Product Designer) โดยร่วมกับช่างสานชุมชนมุสลิมกว่า 40 คน นำผลงานจักสานจากเตยปาหนัน—วัสดุท้องถิ่นของตรัง—มาประยุกต์เป็นสินค้าลิฟ์สไตล์ร่วมสมัย สร้างมูลค่าและเสริมคุณค่าให้ภูมิปัญญาชาวบ้านในยุคใหม่
หลังจากการวิจัยและออกแบบร่วมร่วมกับชุมชนมากว่าหนึ่งปี กลุ่ม SarnSard ประสบความสำเร็จในการสร้างแบรนด์ที่ได้รับการยอมรับในวงออกแบบระดับประเทศ—ถูกคัดเลือกเป็น Young Thai Designers ของ Talent Thai & Designers’ room 2019 และยังได้รับความสนใจจากดีไซเนอร์ต่างประเทศจนเตยปาหนันถูกนำไปใช้งานใน Mahanakhon Bangkok SkyBar อีกด้วย

SuperBee Wax Wraps คือธุรกิจเพื่อสังคมจากเชียงใหม่ ที่เริ่มต้นโดย Antoinette Jackson ในปี 2016 หลังตระหนักถึงปัญหาขยะพลาสติกใช้ครั้งเดียวที่แพร่หลาย เธอพัฒนาผลิตภัณฑ์ beeswax wrap ออร์แกนิกที่ใช้แทนพลาสติกห่ออาหาร และค่อย ๆ ขยายเป็นแบรนด์สินค้าบ้านไร่เพื่อชีวิตยั่งยืนมากขึ้น

ปัจจุบัน SuperBee เป็นธุรกิจเพื่อสังคมที่จดทะเบียนเป็น B Corp (เริ่มมีผลตั้งแต่มีนาคม 2023) เน้นสร้างงานให้กับชุมชนผู้หญิงในพื้นที่ชนบท ชดเชยแรงงานด้วยค่าแรงสูงกว่าค่าครองชีพ 20 % สร้างพื้นที่ทำงานที่เอื้อให้ครอบครัวและผู้เลี้ยงเดี่ยวทำงานได้อย่างยั่งยืน พร้อมทั้งร่วมมือกับภาคีเพื่อสิ่งแวดล้อมและสังคมอย่างต่อเนื่อง

HON HOUSE – เครือข่ายสุขภาพและโอกาส คือองค์กรที่มุ่งส่งเสริมสิทธิด้านสุขภาพและสิทธิทางเพศ พร้อมทั้งพัฒนาศักยภาพของแกนนำจิตอาสา ในการสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นให้แก่สมาชิกและชุมชน โดยตั้งอยู่ในประเทศไทยและทำงานร่วมกับเครือข่ายเพื่อผลักดันให้ทุกคนเข้าถึงสิทธิขั้นพื้นฐานนี้ได้อย่างเท่าเทียม
องค์กรมุ่งเน้นการใช้กระบวนการพัฒนาที่ยั่งยืน ด้วยการเสริมทักษะให้แกนนำและอาสาสมัคร เพื่อสร้างพื้นที่ปลอดภัยที่สมาชิกสามารถเข้าถึงความรู้ สิทธิ และเครื่องมือด้านสุขภาพอย่างเท่าเทียม สร้างแรงบันดาลใจให้ทุกคนมีชีวิตที่ดีขึ้นทั้งทางกาย ใจ และสังคม

Delifill คือธุรกิจเพื่อสังคมในประเทศไทย ที่ให้บริการร้านค้ารูปแบบรีฟิล (refill) สำหรับผลิตภัณฑ์อุปโภคประจำวัน เช่น แชมพู สบู่ น้ำยาล้างจาน ฯลฯ โดยลูกค้าสามารถนำภาชนะมาเติมเองตามปริมาณที่ต้องการ ช่วยลดการใช้บรรจุภัณฑ์พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว และส่งเสริมการบริโภคอย่างยั่งยืน

Delifill ยังขยายบริการด้วยระบบส่งสินค้า refill ถึงบ้าน พร้อมกับการเข้าร่วมโครงการกรุ๊ปพันธมิตร เช่น IPPIN Accelerator ที่สนับสนุนแนวทาง circular economy — มุ่งสร้างทางเลือกไร้ขยะให้ผู้บริโภคในหลายราคารวมถึงสนับสนุนสินค้าจากชุมชนและร้านค้าท้องถิ่น

ในยุคที่สินค้าจากวัสดุสังเคราะห์เข้ามาแทนที่ผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น ส่งผลให้คนในชุมชนเริ่มหยุดสานต่องานหัตถกรรมที่มีคุณค่า ผลิตภัณฑ์จากฝีมือชาวบ้านจึงมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมภูมิปัญญาและวัฒนธรรมท้องถิ่น ผ่านการจำหน่ายสินค้าที่ผลิตจากวัสดุธรรมชาติ ซึ่งปลอดภัยต่อทั้งผู้ผลิตและผู้ใช้งาน

การพัฒนางานหัตถกรรมไทยในปัจจุบันไม่เพียงแต่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค แต่ยังช่วยให้คนในชุมชนได้กลับมามีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่ใช้เองในครัวเรือน ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ไม่เพียงมีความสวยงามและใช้งานได้จริง แต่ยังสื่อถึงคุณค่าทางวัฒนธรรมและภูมิปัญญาชาวบ้านที่มีมาอย่างยาวนาน

อีกทั้ง การใช้วัสดุโบราณที่เป็นธรรมชาติในการผลิต ทำให้ผลิตภัณฑ์สามารถย่อยสลายกลับคืนสู่ธรรมชาติได้ ซึ่งเป็นการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและไม่ทำลายโลก นอกจากนี้ การสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมนี้ยังช่วยปลูกทรัพยากรใหม่ให้กับชุมชนในทุกปี

การส่งเสริมงานหัตถกรรมของชาวบ้านจึงไม่เพียงแต่ช่วยสร้างรายได้ให้กับชุมชน แต่ยังสร้างความภาคภูมิใจในวัฒนธรรมท้องถิ่น และทำให้คนในชุมชนรู้สึกมีคุณค่าเมื่อเห็นผลิตภัณฑ์ที่ทำด้วยมือของตนเอง โดยการสร้างความตระหนักรู้ถึงความสำคัญของการอนุรักษ์ภูมิปัญญาชาวบ้าน จะช่วยสร้างความยั่งยืนให้กับชุมชนในระยะยาว และสร้างสรรค์สังคมที่มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอย่างแท้จริง

มีการสร้างอาหารที่มีคุณภาพและปลอดภัย โดยเน้นการผลิตไข่ไก่ออร์แกนิคและเนื้อไก่ที่ปราศจากการใช้ยาปฏิชีวนะและสารเคมีอันตราย ไก่ในฟาร์มได้รับอาหารที่ทำจากข้าวเหลือจากการสีข้าวในโรงสี ซึ่งเป็นการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า และช่วยลดของเสียในกระบวนการผลิต นอกจากนี้ ฟาร์มยังไม่ใช้พืชอาหารสัตว์ที่มาจากการเกษตรเคมีเชิงเดี่ยว ซึ่งช่วยลดการใช้สารเคมีและส่งเสริมการเกษตรที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

การทำปศุสัตว์อินทรีย์นี้เป็นมากกว่าการผลิตอาหาร แต่ยังเป็นการสร้างความเป็นธรรมให้แก่ผู้บริโภค โดยผู้บริโภคสามารถมั่นใจได้ว่าไข่และเนื้อไก่ที่พวกเขาบริโภคปราศจากสารเคมีอันตราย และยังส่งผลดีต่อสุขภาพในระยะยาว

นอกจากการผลิตที่ปลอดภัยแล้ว ฟาร์มไก่อินทรีย์ยังมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมระบบนิเวศน์การเกษตรอินทรีย์ในชุมชนต่าง ๆ ทั่วประเทศ โดยมีเป้าหมายให้เกษตรกรรายย่อยสามารถดำเนินชีวิตอย่างยั่งยืน ด้วยการใช้ระบบเกษตรหมุนเวียน ซึ่งช่วยรักษาทรัพยากรให้คงอยู่และส่งต่อไปยังรุ่นถัดไป เกษตรกรรายย่อยจึงไม่เพียงมีรายได้จากการทำนา แต่ยังสามารถขยายธุรกิจด้วยการทำฟาร์มอินทรีย์ ส่งผลให้เกิดความยั่งยืนทั้งทางเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อม

การเกษตรแบบหมุนเวียนนี้ยังช่วยให้เกษตรกรมีระบบที่รองรับการใช้ทรัพยากรอย่างยั่งยืน สามารถใช้ประโยชน์จากสิ่งที่มีอยู่ในท้องถิ่นได้อย่างเต็มที่ ลดการพึ่งพาปัจจัยภายนอก และสามารถสร้างระบบที่ส่งเสริมความเป็นธรรมต่อทั้งเกษตรกรและผู้บริโภค

กลุ่มเกษตรทฤษฎีใหม่บ้านตาเพชร ตั้งอยู่ในตำบลนานวน อำเภอสนม จังหวัดสุรินทร์ ทำหน้าที่เป็นพื้นที่การเรียนรู้ที่ปลอดภัยและสร้างสรรค์สำหรับเยาวชนที่หลุดออกจากระบบการศึกษา ผ่านแนวทาง “ห้องเรียนจากชุมชน” ที่ผสมผสานการเพาะปลูก การเลี้ยงสัตว์ และกิจกรรมอาชีพตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง
นำโดย ‘พี่นาย – ฉัตรมงคล ภูเงิน’ ผู้ก่อตั้งกลุ่มนี้มีแรงบันดาลใจจากการเห็นว่า เมื่อเยาวชนมีพื้นที่ปลอดภัย มีเพื่อน มีสังคม พวกเขาจะค้นพบเป้าหมายในชีวิต พัฒนาทักษะ สร้างอาชีพ และเดินต่อไปได้อย่างเข้มแข็ง เติมเต็มชีวิต ครอบครัว และชุมชนให้ยั่งยืน

LPC Social Enterprise เป็นธุรกิจเพื่อสังคมภายใต้กลุ่ม LPN ที่ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2554 (2011) โดยมีจุดมุ่งหมายในการให้บริการทำความสะอาดและบริการชุมชนอย่างครบวงจร พร้อมเปิดโอกาสการทำงานให้กับสตรีด้อยโอกาส ผู้สูงอายุ และผู้พิการ ผ่านการฝึกอบรมทักษะและสร้างอาชีพที่มั่นคงและเท่าเทียม

LPC มอบค่าตอบแทนและสวัสดิการที่สูงกว่ามาตรฐานทั่วไป ร่วมทั้งช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตโดยให้การศึกษาแก่พนักงานที่ต้องการ สูงขึ้น ผ่านระบบ กศน., มอบทุนการศึกษา, และฝึกอาชีพเสริมเช่นการนวดแผนไทย มีพนักงานมากกว่า 2,800 คน ที่ได้รับประโยชน์จากข้อเสนอเหล่านี้

องค์กรยังส่งเสริมให้เกิดความมั่นคงทางการเงิน ผ่านโครงการ “รักการออม” ซึ่งให้พนักงานออม แม้จำนวนเล็กน้อย พร้อมรับเงินสมทบจากบริษัท ช่วยให้เกิดภูมิคุ้มกันทางการเงิน

นอกจากนี้ สมาชิก LPC ยังรวมตัวจัดกิจกรรมจิตอาสาเช่น ดูแลความสะอาดพื้นที่สาธารณะ เช่น วัด ป้ายรถเมล์ และสถานีตำรวจ ปีละมากกว่า 2,000 ครั้ง เพื่อส่งต่อคุณค่าและคืนกลับสู่สังคม

องค์กรได้รับการรับรองจากกระทรวง พม. ให้เป็น ธุรกิจเพื่อสังคม อย่างเป็นทางการ

Tripseed คือธุรกิจเพื่อสังคมในประเทศไทย (social enterprise) ที่ให้บริการด้านการท่องเที่ยวแบบปรับแต่งเฉพาะ (tailor-made holidays) โดยมุ่งส่งเสริมการท่องเที่ยวที่มีจุดประสงค์ชัดเจนและยั่งยืน โดยเป็นธุรกิจที่เจ้าของเป็นคนไทยและนำทีมโดยผู้หญิง ต่อยอดจากความเชี่ยวชาญด้านการจัดการปลายทางและการเดินทาง ที่พัฒนากลับมาใหม่หลังวิกฤตโควิด-19 เพื่อลดการรั่วไหลของรายได้และสร้างการเติบโตที่เป็นธรรมในชุมชนท้องถิ่น

องค์กรเน้นย้ำการทำงานร่วมกับชุมชน ผ่านการออกแบบทริปที่เชื่อมโยงวัฒนธรรมท้องถิ่นอย่างลึกซึ้งและสร้างสรรค์ เช่น ทริปสำหรับผู้สูงอายุหรือผู้มีความบกพร่องในการเคลื่อนไหว ที่รวมแนวคิดความเท่าเทียมทางเพศ การแก้ปัญหาการรั่วไหลของรายได้ และการสนับสนุนเศรษฐกิจท้องถิ่นอย่างจริงจัง ปัจจุบัน Tripseed ได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกของสมาคม Social Enterprise Thailand เพื่อเสริมแนวคิดและเครือข่ายด้านธุรกิจเพื่อสังคมในประเทศไทย

โอยุ เป็นแบรนด์ชาแนวคิดน่าสนใจที่ใช้ ข้าวกล้องออร์แกนิกไทย มาพัฒนาเป็นชา “เก็นไมฉะ” แบบญี่ปุ่นโดยไม่มีคาเฟอีน กลายเป็นเครื่องดื่มทางเลือกเพื่อสุขภาพที่ดื่มได้ทุกเพศทุกวัย โดยไม่ใช้การผสมใบชาแต่อย่างใด

โอยุมีจุดเด่นด้านการออกแบบผลิตภัณฑ์ที่คำนึงถึง ความยั่งยืนทางสังคม ตัวอย่างเช่น การเลือกใช้ งานสานพื้นบ้าน มาทำเป็นบรรจุภัณฑ์ ซึ่งช่วยสร้างรายได้และรักษาภูมิปัญญาท้องถิ่นอย่างเป็นธรรม

แบรนด์นี้ได้รับการแนะนำจาก สมาคมธุรกิจเพื่อสังคม (SE Thailand) ในแคมเปญ “Why SE” และได้เข้าร่วมในงาน กาดกลางกรุง 2025 เพื่อสื่อสารแนวคิด “ช็อปและช่วย” ที่ตอบโจทย์สุขภาพ สิ่งแวดล้อม และเศรษฐกิจชุมชนอย่างลงตัว

Punfun Accounting Seed (ปันฝัน เมล็ดพันธุ์บัญชี) เกิดขึ้นเพื่อตอบโจทย์การแก้ไขปัญหาความยุ่งยากและความไม่เข้าใจในการจัดทำบัญชีและการปฏิบัติตามกฎหมายภาษีของผู้ประกอบการ โดยพัฒนาเครื่องมือและกระบวนการทำงานที่ช่วยลดภาระด้านเอกสารและการเงิน ช่วยให้ผู้ประกอบการ โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจเพื่อสังคม สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างเป็นระบบ มีความเข้มแข็ง และสร้างผลกระทบเชิงบวกตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ได้อย่างยั่งยืน พร้อมทั้งส่งต่อกิจการไปยังคนรุ่นต่อไป

องค์กรยังมุ่งเน้นการพัฒนาทักษะแรงงานด้านบัญชีเพื่อเพิ่มการจ้างงานในพื้นที่ชุมชน และเสริมสร้างศักยภาพผู้ประกอบการที่ต้องการสร้างผลกระทบทางสังคม ให้เข้าใจระบบธุรกิจ การจัดการทางการเงิน และมาตรฐานที่โปร่งใส โดยดำเนินกิจกรรมที่หลากหลาย เช่น คลินิกให้คำปรึกษาด้านบัญชีและภาษี Workshop ส่วนตัวเพื่อพัฒนาการจัดการธุรกิจ และโครงการ Unlock Smart SE ที่สนับสนุนวิสาหกิจชุมชนและธุรกิจเพื่อสังคมผ่านเครื่องมือดิจิทัลครบวงจร รวมถึงการพัฒนานวัตกรรม เช่น เครื่องชั่งแสดงผลปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า (Co2e) เพื่อสร้างความเข้าใจด้านสิ่งแวดล้อมในชุมชน

Restart Academy (ตั้งต้นดี) คือธุรกิจเพื่อสังคมในประเทศไทย ที่ริเริ่มโดย สถาบันเพื่อการยุติธรรมแห่งประเทศไทย (TIJ) มุ่งเสริมทักษะอาชีพและคุณภาพชีวิตให้กับผู้พ้นโทษหรือผู้ที่เคยมีประวัติความผิด ผ่านการฝึกงานด้านธุรกิจร้านอาหารในชีวิตจริงและทักษะชีวิตที่จำเป็น ช่วยเปิดโอกาสให้พวกเขากลับเข้าสู่สังคมได้อย่างยั่งยืน

ในปีต่อมา Restart Academy ได้ขยายโอกาสไปสู่ภาคบริการอื่น ๆ เช่น สปา ธุรกิจความงาม และการดูแลต้นไม้ (arborist) ร่วมกับพันธมิตรต่าง ๆ เช่น BIg Trees Foundation และ Bangkok University เพื่อสร้างอาชีพที่หลากหลาย พร้อมลดอัตราการกระทำผิดซ้ำของผู้เข้าโปรแกรมเหลือเพียง 8.1% ในปีแรก

Joy Ride Thailand คือธุรกิจเพื่อสังคมในประเทศไทย (Social Enterprise) ก่อตั้งขึ้นในปี 2021 โดยมีพันธกิจให้บริการรับส่งผู้สูงอายุหรือผู้ที่ต้องได้รับการดูแลพิเศษไปยังโรงพยาบาลหรือจุดหมายปลอดภัย เช่น ตรวจสุขภาพ ทำกายภาพ ฟอกไต ฉายแสง ส่องกล้อง เคมีบำบัด ไปวัด ทำบุญ หรือดูแลแม่ตั้งครรภ์และเด็กแรกเกิด โดยมีผู้ดูแลที่พร้อมอาสา “เหมือนลูกจ้างที่ดูแลคุณตา ยาย” ตลอดการเดินทาง ทุกเที่ยวให้ความอบอุ่น ปลอดภัย และมีความใส่ใจอย่างเต็มที่

เพื่อรองรับการบริการที่มีคุณภาพ Joy Ride Thailand มีแพลตฟอร์มที่ออกแบบจากการสนับสนุนของ YoungHappy, สสส. และ NIA ที่ให้บริการแบบ Real‑Time พร้อมระบบบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ อีกทั้งพิถีพิถันเรื่องความสะอาดและความปลอดภัยของพาหนะ ด้วยการตรวจ ATK, ฉีดวัคซีน, ใช้เครื่องฟอกอากาศ, ฆ่าเชื้อพื้นผิว และอบโอโซนหลังใช้งาน เพื่อสร้างความมั่นใจให้ครอบครัวและผู้รับบริการว่าการดูแลนั้นทั้ง “อบอุ่นและปลอดภัย”

Zero Waste YOLO (YOLO – Zero Waste Your Life) คือวิสาหกิจเพื่อสังคมด้านสิ่งแวดล้อมในประเทศไทย ที่ปรึกษาและผู้เชี่ยวชาญในการจัดการขยะครบวงจร โดยเฉพาะพลาสติก ‘กำพร้า’ และการจัดการขยะต้นทาง ด้วยบริการออกแบบระบบแยกขยะ สร้างพฤติกรรมใหม่ ผลิตเครื่องรีไซเคิล พลาสติกและแม่พิมพ์ รวมถึงสินค้าอัพไซเคิล จากพลาสติกกำพร้า เพื่อแก้ปัญหาขยะอย่างยั่งยืน

ชื่อ “YOLO” มาจากวลี “You Only Live Once” สะท้อนเจตนารมณ์ขององค์กรที่ต้องการใช้ชีวิตนี้เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงทั้งในชุมชน ประเทศ และสิ่งแวดล้อม โดย Zero Waste YOLO มีเป้าหมายผลักดันให้เกิดระบบ กฎหมาย เครื่องมือ และองค์ความรู้ในการจัดการขยะอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อลดปริมาณขยะสู่หลุมฝังกลบอย่างมากที่สุด
Zero Waste YOLO

จาก ตุลาคม 2565 ถึง กันยายน 2567 เกิดผลลัพธ์เชิงสังคมอย่างเป็นรูปธรรม—ลดขยะ 60,422.08 กก. (เทียบเท่าก๊าซเรือนกระจก 60,140.55 kgCO₂e หรือรถยนต์ที่วิ่งได้กว่า 247,539 กม. และเทียบเท่าต้นกล้า 994 ต้นในระยะเวลา 10 ปี)

Mingkwan คือธุรกิจเพื่อสังคมจากจังหวัดเชียงราย ซึ่งมีเป้าหมายหลักในการสนับสนุนเกษตรกรในพื้นที่ อำเภอขุนตาล ให้เปลี่ยนสู่ระบบ เกษตรอินทรีย์ และสร้างความมั่นคงทางรายได้ โดยรับซื้อผลผลิตข้าวอินทรีย์โดยตรงจากชาวนาในราคาที่เป็นธรรม ไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง ส่งเสริมสุขภาพผู้บริโภค และลดการใช้สารเคมีที่อาจทำลายสิ่งแวดล้อมและส่งผลกระทบต่อชีวิตเกษตรกร

จุดเด่นของ Mingkwan ยังอยู่ที่การ แปรรูปข้าว ให้เป็นสินค้าแนวใหม่ (innovative products) เช่น “Mini Rice Cube” ข้าวอัดก้อนพร้อมทาน และ “ชาข้าวคั่วออร์แกนิค” ที่ทั้งหอมและดีต่อสุขภาพ พร้อมเสริมคุณค่าและสร้างทางเลือกบริโภคใหม่ให้กับผู้บริโภคอย่างปลอดภัย

ธุรกิจนี้จึงไม่ได้มุ่งแค่ผลกำไร แต่สร้างผลกระทบเชิงบวกต่อเกษตรกรและชุมชนผ่านการออมความรู้เรื่องการทำเกษตรอินทรีย์ และขยายแนวคิดเกษตรที่ยั่งยืนสู่สังคมไทย

SiamRise Travel เป็นผู้ให้บริการด้านการท่องเที่ยวที่เน้นแนวคิด Community-Based Tourism (CBT) และ Responsible Tourism (RT) โดยมุ่งสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสิ่งแวดล้อม การศึกษา เศรษฐกิจ และสังคมในชุมชนท้องถิ่น

บริการของ SiamRise มีหลากหลายรูปแบบ เช่น ทัวร์ในเมือง (Urban Tours), ทัวร์หมู่บ้านวัฒนธรรม (Cultural Village Tours), การพักแบบโฮมสเตย์, ทัวร์หลายวัน และทัวร์เชิงการศึกษา (Educational Tours) ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อให้ผู้เดินทางได้มีส่วนร่วมกับชุมชนอย่างลึกซึ้งและมีความหมาย

“3Ps” คือหลักของการดำเนินงาน: Profit, People, Planet — เพื่อให้การท่องเที่ยวที่สร้างรายได้ควบคู่ไปกับการดูแลผู้คนและสิ่งแวดล้อม

นอกจากนี้ SiamRise ยังมีความร่วมมือในเส้นทาง “Thailand Green Tourism Collections” ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (TAT) ซึ่งเป็นโปรแกรมส่งเสริมเส้นทางท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนในประเทศ

Chumanee คือธุรกิจเพื่อสังคมในประเทศไทย โดยมีเป้าหมายสำคัญคือแก้ไขปัญหาสังคมและเสริมสร้างคุณภาพชีวิตของกลุ่มเปราะบางผ่านความร่วมมือกับ Otteri Wash & Dry (ร้านสะดวกซักแฟรนไชส์) Chumanee ใช้โมเดลธุรกิจสร้างงานให้กลุ่มผู้สูงอายุในชุมชนที่ให้บริการฝากซัก อบ และพับผ้าภายในร้าน ควบคู่กับการให้บริการสาธารณะแก่คนไร้บ้าน เช่น รถซักผ้าเคลื่อนที่พร้อมห้องอาบน้ำ (Laundry Move) เพื่อให้พวกเขาเข้าถึงสุขภาวะพื้นฐานได้ง่ายขึ้น
แนวคิดของ “ชูมณี” ได้แรงบันดาลใจจากการมองเห็น ‘คุณค่า’ ในผู้คนที่ถูกมองข้ามในสังคม — ไม่ว่าจะเป็นผู้สูงอายุ คนไร้บ้าน หรือผู้พ้นโทษ — และมุ่งให้พวกเขาเปล่งประกายจากความใส่ใจและโอกาสที่ได้รับ โดยได้จับมือร่วมกับมูลนิธิกระจกเงา เปิดตัวโครงการ “Laundry Move” ซึ่งเป็นการให้บริการรถซักผ้าเคลื่อนที่ พร้อมห้องอาบน้ำ เพื่อรองรับการใช้สิทธิขั้นพื้นฐาน เช่น การอาบน้ำและสุขอนามัย ในชุมชนคนไร้บ้านอย่างเข้าถึงและเท่าเทียม

องค์กรเกิดจากปัญหาของคนในชุมชนย้ายไปทำงานต่างถิ่น ประเทศมาเลเซีย 37% ของคนในชุมชนทั้งหมด 8,500 คน 1,082 หลังคาเรือน ทำให้ครอบครัวแตกแยกกัน บางครอบครัวถึงกับหย่าร้างกันก็มี โดยมีเป้าหมายพัฒนาชุมชนให้เข้มแข็ง เน้นให้คุณค่าคนมากกว่าเครื่องจักร ต้องการยกระดับคนในชุมชนให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ด้วยการสร้างอาชีพให้กับคนในชุมชนมีรายได้สามารถพึ่งพาตัวเองได้ และมีความภาคภูมิใจในอาชีพของตน มีส่วนในการสร้างความสุขให้กับผู้บริโภคเข้าถึงสินค้าดีและปลอดภัย โดยการสร้างงานด้วยต้นกำเนิดวัตถุดิบที่มีคุณภาพจากดินแดนลังกาสุกะ ด้วยการสร้างมูลค่าเพิ่มผลผลิตทางการประมง ที่ได้ภูมิปัญญาจากบรรพบุรุษและวัตถุดิบดั้งเดิมเป็นหัวใจสำคัญ เป็นองค์กรที่พัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ธุรกิจมีกำไรคืนสู่ชุมชนเติบโตอย่างยั่งยืน

ซึ่งเป็นธุรกิจเพื่อสังคมที่มีรายได้มากจากการจำหน่ายอาหารทะเลแปรรูปจากปลาทะเล ที่ได้ภูมิปัญญาจากบรรพบุรุษและวัตถุดิบดั้งเดิมเป็นหัวใจสำคัญ ผสมผสานกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ มีส่วนในการสร้างงานให้กับคนในชุมชน และมีส่วนในการสร้างความสุขให้กับผู้บริโภคเข้าถึงสินค้าดีและปลอดภัย

เพลินไพร ออร์แกนิค เป็นวิสาหกิจเพื่อสังคมที่ก่อตั้งโดย นพ.นรุตม์ อภิชาตอำมฤต (“หมอนิค”) แพทย์ชนบทในจังหวัดชัยภูมิ ที่ตระหนักว่าปัญหาด้านสุขภาพของคนในชนบทมีรากมาจากระบบเกษตรเคมีแบบเชิงเดี่ยว ซึ่งนำมาสู่ความยากจน หนี้สิน และแรงงานย้ายถิ่น. หลังจากใช้เวลากว่า 7 ปีในการสร้างเครือข่ายเกษตรอินทรีย์ (PGS) จ.ชัยภูมิ และช่วยให้เกษตรกรกว่า 100 ครอบครัวพึ่งตนเองได้ หมอนิคจึงตั้ง “เพลินไพร ออร์แกนิค” เพื่อรับซื้อผลผลิตจากเกษตรกรและพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์สุขภาพเพื่อผู้บริโภคที่ยังสุขภาพดีจากภายใน (natural, minimal processing)

วิสาหกิจนี้ดูแลครบตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง — สนับสนุนความรู้เกษตรอินทรีย์ สร้างรายได้มั่นคง กระตุ้นให้แรงงานกลับสู่บ้านเกิด พร้อมสร้างชุมชนที่สมบูรณ์และยั่งยืน. นอกจากนี้เน้นผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยมีการจัดการของเสียอย่างมีประสิทธิภาพ และใช้บรรจุภัณฑ์ที่ลดขยะ

Saturday School Foundation ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2557 (2014) โดยครูยีราฟ (สรวิศ ไพบูลย์รัตนากร) ภายใต้แนวคิดที่ว่า “ทุกคนในสังคมสามารถมีส่วนร่วมในการเปลี่ยนแปลงการศึกษาได้”

องค์กรนี้สร้างพื้นที่การเรียนรู้ที่แตกต่างจากระบบโรงเรียนทั่วไป ผ่านการจัดห้องเรียนที่เปิดโอกาสให้เด็ก ๆ ได้เรียนรู้ตามความสนใจผ่านวิชานอกหลักสูตร เช่น ดนตรี ศิลปะ วิทยาการคอมพิวเตอร์ และการทำอาหาร โดยใช้จิตอาสาจากผู้เชี่ยวชาญในหลากหลายสาขามาร่วมสอน

ตลอด 11 ปีที่ผ่านมา Saturday School ขยายผลอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมีมากกว่า 80 โรงเรียนเข้าร่วมในกรุงเทพฯ และอีก 14 จังหวัดต่างๆ มีอาสาสมัครกว่า 5,950 คน และเด็กที่ได้รับประโยชน์ประมาณ 19,287 คน ซึ่งมีเป้าหมายให้เด็กกล้า “เดินตามความฝัน” และเติบโตเป็นผู้เปลี่ยนแปลงสังคมในอนาคต

มูลนิธิ ทีช ฟอร์ ไทยแลนด์ ขับเคลื่อนเครือข่ายผู้นํา ทํางานเพื่อสร้างความเสมอภาคทางการศึกษาให้แก่เด็กไทยทุกคน โดยมุ่งทำภารกิจให้ลุล่วงด้วยการสรรหาและพัฒนาศักยภาพเพื่อส่งครูผู้นำการเปลี่ยนแปลงไปในโรงเรียนที่มีบริบทท้าทาย และทำงาน เคียงบ่าเคียงไหล่กับโรงเรียนและชุมชนเป็นเวลา 2 ปี เพื่อให้นักเรียนได้รับการศึกษาที่มีคุณภาพ อันจะช่วยให้พวกเขาสามารถกำหนดอนาคตที่ดีกว่าให้แก่ตนเองและคนรอบข้าง หลังจากจบโครงการ 2 ปี ก็มุ่งหวังให้เครือข่ายศิษย์เก่า หรือเครือข่ายผู้นำของ Teach For Thailand เข้าไปร่วมสร้างความเสมอภาคทางการศึกษาในระยะยาวผ่านการทำงานในภาคส่วนต่าง ๆ ของสังคมต่อไป โดยที่ผ่านมาได้คัดสรรครูผู้นำฯ 500 คน ซึ่งได้เข้าถึงนักเรียนมากกว่า 120,000 คน จากโรงเรียนกว่า 106 แห่งใน 21 จังหวัดทั่วประเทศไทย ในปี 2565 มีศิษย์เก่า จำนวน 250 คนได้เข้าไปทำงานในหลากหลายสาขาอาชีพ และสร้างผลกระทบทางบวกแก่นักเรียนแล้วกว่า 100,000 คน

Vulcan Coalition เป็นธุรกิจเพื่อสังคมด้านเทคโนโลยี (Social Enterprise) ในประเทศไทย ที่ใช้พลังของปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อสร้างโอกาสในการทำงานสำหรับคนพิการ ผ่านการฝึกอบรมและโคจ้งสนามนวัตกรรม ช่วยให้ผู้พิการสามารถมีโอกาสทำงานที่คุณภาพในอุตสาหกรรม AI และเพิ่มศักยภาพของตนเองอย่างเท่าเทียมและยั่งยืน

เปิดดำเนินการตั้งแต่ปี 2020 มุ่งเป้าให้คนพิการเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญในการสร้างงานด้าน AI โดยทุกวันนี้มีพนักงานคนพิการกว่า 600 คน ทำรายได้เฉลี่ยต่อเดือนมากกว่า 9,000 บาท ซึ่งสะท้อนถึงคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น รวมถึงส่งเสริมความเท่าเทียมในการเข้าถึงงานในโลกยุคดิจิทัล

กินอยู่ดี แพลตฟอร์ม (KinYooDee Platform) คือวิสาหกิจเพื่อสังคมในประเทศไทย ที่ให้บริการแพลตฟอร์มอี-คอมเมิร์ซด้านอาหารและสุขภาพ โดยครอบคลุมทั้งอี-คอมเมิร์ซอาหารและผลิตภัณฑ์สุขภาพ, การดูแลสุขภาพเคลื่อนที่ (mHealth), ระบบเครดิตสุขภาพ, อุตสาหกรรมชีวภาพ และเกษตรอัตโนมัติ ซึ่งออกแบบมาเพื่อส่งมอบคุณค่าให้กับทั้งผู้ผลิต ผู้ให้บริการ และผู้บริโภค ผ่านโซลูชันที่เชื่อมโยงชุมชนด้านเกษตร อาหาร และสุขภาพ เพื่อการเติบโตที่ยั่งยืนในมุมธุรกิจและสังคม
องค์กรนี้มีพื้นฐานจากประสบการณ์กว่า 20 ปี ในการพัฒนาซอฟต์แวร์และโซลูชันเพื่อการบริหารจัดการต่าง ๆ เช่น ระบบโลจิสติกส์ การจัดการวัตถุดิบ และระบบการจัดส่ง (Fulfillment Center) ซึ่งกลายเป็นรากฐานสำคัญที่ช่วยให้แพลตฟอร์ม iOrder – ระบบซัปพลายเชนอัจฉริยะ – ก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางการสั่งซื้อและจัดส่งอาหารสด (iOrderFresh) ในช่วงการแพร่ระบาด COVID‑19 และพัฒนาการบริการมุ่งเชื่อมโยงอาหารและสุขภาพอย่างต่อเนื่อง

การวางแผนทางการเงินเป็นเรื่องที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะเกี่ยวข้องกับการดำรงชีวิตอย่างมีคุณภาพ ทั้งพึ่งพาตนเองและเป็นที่พึ่งพาแก่ผู้อื่นได้ แต่ความรู้และทักษะพื้นฐานทางการเงินที่จำเป็นนี้กลับถูกละเลย ประชาชนไทยส่วนใหญ่ยังมีความรู้ความเข้าใจทางการเงินในระดับที่ต่ำ ส่งผลให้เกิดปัญหาที่ต่อเนื่องทั้งกับตัวบุคคล ชุมชน ลามไปสู่ปัญหาใหญ่ระดับประเทศ

โนบูโร ตระหนักว่าปัญหาการเงินนั้นมีอยู่ในทุกระดับ และจำเป็นต้องได้รับการแก้ไขอย่างรอบด้าน จึงได้ออกแบบหลักสูตรการเรียนรู้ด้วยหลัก “ความรู้คู่ทุน” เพื่อให้ความรู้และปรับพฤติกรรมทางการเงิน ทั้งเรื่องการบริหารจัดการหนี้ การสร้างวินัยการออม หรือแม้แต่การบริหารจัดการรายรับ-จ่ายรายเดือน โดยใช้ข้อมูล เทคโนโลยี และกลไกทางสังคมมาแก้ปัญหาทางการเงินอย่างยั่งยืน

โนบูโร มีรูปแบบการดำเนินธุรกิจแบบ B2B2C เป็นการให้บริการสวัสดิการทางการเงินเพื่อพนักงาน โดยใช้หลักความรู้คู่ทุน เช่น ปรับเปลี่ยนความคิดด้วย ความรู้ทางการเงิน ให้ความรู้การจัดการหนี้สิน ลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น ความจำเป็นด้านการออม และลงทุน ผ่านภารกิจต่าง ๆ ในแอปพลิเคชั่น, จัด workshop ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ เรียนรู้การเงิน ผ่านการเปลี่ยนความคิด ปรับพฤติกรรม และลงมือทำ, ให้บริการสินเชื่อที่เป็นธรรม เพื่อนำไปแก้ปัญหาหนี้สินที่ดอกเบี้ยสูง ช่วยเสริมสภาพคล่องให้คืนกลับมา

สำหรับที่มารายได้ คือ จากค่าใช้บริการแอปพลิเคชั่น และ workshop ของบริษัทคู่สัญญา อีกทั้งจากค่าใช้บริการสินเชื่อ

อัจฉริยะศึกษา วิสาหกิจเพื่อสังคม (Genius Education SE) เป็นวิสาหกิจเพื่อสังคมที่ตั้งอยู่ในกรุงเทพฯ ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2562 (2019) โดยมีเป้าหมายหลักในการพัฒนาความรู้ทางการจัดการการเงิน ทั้งสำหรับเด็ก เยาวชน ครู และเกษตรกร ผ่านหลักสูตร ‘Genius System 5.0’ ที่ช่วยให้บุคคลค้นพบความเชี่ยวชาญตามธรรมชาติของตนเอง พร้อมสร้างอาชีพที่มั่งคั่งและยั่งยืนตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง

องค์กรดำเนินงานผ่านโครงการต่าง ๆ เช่น
โครงการปลดหนี้สำหรับครูและเกษตรกร
สอนการเงินเด็กและเยาวชนในโรงเรียนทั่วประเทศ
พัฒนาสินค้าและผลิตภัณฑ์ของเกษตรกรไทย
ศูนย์เรียนรู้ในเชียงรายร่วมกับมหาวิทยาลัยท้องถิ่น
พวกเขาเน้นสร้างผลทางสังคมอย่างยั่งยืนผ่านการสอนความรู้ทางการเงิน วางแผนปลดหนี้ และสร้างระบบโค้ชชิ่งติดตามผลอย่างต่อเนื่อง

TV Burabha หรือ TVBG คือบริษัทผู้ผลิตสื่อและรายการสารคดีคุณภาพสูงจากกรุงเทพฯ ก่อตั้งตั้งแต่ปี 2003 (พ.ศ. 2546) โดยมีพันธกิจ “People’s Stories Inspiring the World” — คือการเสาะหาเรื่องราวธรรมดาที่มีความหมาย ถ่ายทอดให้เห็นถึงวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ และหัวใจของผู้คน ผ่านสื่อที่สร้างแรงบันดาลใจและเปลี่ยนมุมมองต่อชีวิต

ด้วยความเชื่อในพลังของสื่อบวกต่อสังคม จึงผลิตรายการที่ไม่ได้มุ่งแค่ธุรกิจ เช่น รายการ คนค้นฅน และ กบนอกกะลา ผ่านกระบวนการคิดสร้างสรรค์ที่ใส่ใจเนื้อหาสังคมและคุณภาพชีวิตหลากหลายมิติ อีกทั้งยังจัดกิจกรรมเพื่อสังคมเพื่อส่งเสริมและยกย่องบุคคลที่สร้างคุณค่าแก่วงกว้าง

FlowFolk คือธุรกิจเพื่อสังคมจากจังหวัดแพร่ ที่มุ่งมั่นในการช่วยคืนชีวิตให้กับภูมิปัญญาท้องถิ่นและงานหัตถกรรม ผ่านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ในรูปแบบร่วมสมัยและยั่งยืน พวกเขาใช้แนวทางเชิงวิทยาศาสตร์ การออกแบบสร้างสรรค์ และความรู้จากพื้นบ้าน มาแปลงโฉมวัตถุดิบและงานฝีมือท้องถิ่นให้ตรงกับตลาดปัจจุบัน

องค์กรทำงานร่วมกับชุมชนโดยตรง เช่น ความร่วมมือกับวิทยาลัยชุมชนแพร่และกลุ่มวิสาหกิจชุมชน จัดทำผ้าทอมือย้อมธรรมชาติจากชนเผ่า Karen, พัฒนาเส้นใยฝ้ายท้องถิ่นในจังหวัดเลย, และต่อยอดผลิตภัณฑ์จากวัตถุดิบชุมชนสู่แพ็กเกจท้องถิ่นที่มีดีไซน์ร่วมสมัย

ทีมผู้ก่อตั้งนำด้วย Nilobon Pramarn (CEO) ที่มีพื้นฐานจากงานพัฒนาสังคมและ R&D และรวมผู้เชี่ยวชาญด้านอาหาร ศิลปะ และการออกแบบ — เพื่อผสมผสานองค์ความรู้ในด้านการสร้างสรรค์และผลกระทบทางสังคม

เทใจดอทคอม (Taejai.com) คือแพลตฟอร์มระดมทุนออนไลน์เพื่อส่งเสริมโครงการที่มีเป้าหมายสร้างผลกระทบเชิงสังคมและสิ่งแวดล้อมในประเทศไทย ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2555 (2012) โดยริเริ่มจากความร่วมมือของ มูลนิธิขับเคลื่อนการปฎิรูปชนบทภายใต้พระบรมราชูปถัมภ์ มูลนิธิคนไทย และสถาบัน ChangeFusion ตามแนวคิด “Community Giving for Thai People” ที่เปิดโอกาสให้คนทั่วไปมีส่วนร่วมกับโครงการที่ต้องการความช่วยเหลืออย่างแท้จริง

แพลตฟอร์มนี้ทำหน้าที่คัดเลือกโครงการอย่างละเอียดตามเกณฑ์ เช่น ความคิดสร้างสรรค์ ผลกระทบที่วัดได้ และความเป็นไปได้ จากนั้นเผยแพร่บนเว็บไซต์ สนับสนุนให้ผู้บริจาคเข้ามามีส่วนร่วม ติดตามความคืบหน้า และรับประกันการใช้เงินที่โปร่งใส โดยเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการดำเนินงานเพียง 10% ของยอดบริจาคเพื่อดูแลระบบเว็บและดำเนินการตรวจสอบต่างๆ

WISHULADA คือผลงานสร้างสรรค์ของ Wishulada Panthanuvong — ศิลปินและนักเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อม ที่ถ่ายทอดแนวคิด Circular Economy ผ่านการเปลี่ยน “ขยะ” ให้กลายเป็น “งานศิลปะ” ที่ทรงคุณค่า (“Turning Trash to Treasured Art”) และมีบริการออกแบบงานศิลปะจากวัสดุเหลือใช้ (waste materials) ตามบริบทของชุมชนหรือองค์กรลูกค้า พร้อมระบบบริการ One Stop Service ตั้งแต่คิดงาน ไปจนถึงติดตั้งและรื้อถอน

ผลงานของเธอไม่ใช่เพียงความสวยงาม แต่เป็นสื่อเชิงสังคมที่ปลุกจิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อม เช่น “Wire Puller” งานศิลปะรูปมือจากขยะพลาสติกที่สะท้อนถึงความรับผิดชอบของแบรนด์ต่อปัญหาขยะ

นอนนอน (nornnorn) เป็นสตาร์ทอัพจากกรุงเทพฯ ก่อตั้งในปี พ.ศ. 2561 โดยผู้บริหารที่มีประสบการณ์ด้านที่นอนกว่า 10 ปี และมีจิตสำนึกต่อสิ่งแวดล้อมสูง. รูปแบบธุรกิจคือให้เช่าที่นอนใหม่คุณภาพระดับพรีเมียม โดยไม่ต้องลงทุนซื้อแบบครั้งเดียว พร้อมรวมบริการรับกลับมาจัดการรีไซเคิลเมื่อสิ้นสุดการใช้งาน โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม

การดำเนินการดังกล่าวช่วยลดการสร้างขยะจากที่นอนที่ยากต่อการกำจัด ตลอดจนลดผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม เช่น การปล่อยก๊าซเรือนกระจก มลภาวะทางอากาศ และสารพิษในอากาศ ได้ประมาณ 31%, 28% และ 24% ตามลำดับ ผ่านการประเมินวงจรชีวิต (LCA)

องค์กรได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางทั้งในประเทศและต่างประเทศ เช่น ได้รับรางวัลจาก crQlr (Model Business Award, Green Hospitality Prize และอื่น ๆ) และเป็นหนึ่งในกรณีศึกษาของ PwC ในรายงานด้านเศรษฐกิจหมุนเวียน (Reinventing Asia Pacific) ยังเป็นส่วนหนึ่งของเครือข่าย UK Global Entrepreneur Programme, Ellen MacArthur Foundation, Cambridge Cleantech และ ASEAN Circular Economy Business Alliance (ACEBA)

บริษัท นวัตกรรมชาวบ้าน จำกัด ก่อตั้งขึ้นจากจุดเริ่มต้นของการทำงานอาสาสมัครในปี 2543 ที่มุ่งเก็บและต่อยอดภูมิปัญญาท้องถิ่นของเกษตรกรในจังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อตอบโจทย์การพัฒนาสังคมและแก้ปัญหาความยากจนในภาคอีสาน จากประสบการณ์ตรงและการเรียนรู้ในชุมชน นำไปสู่การก่อตั้งเครือข่ายนวัตกรรมชาวบ้านในปี 2548 เพื่อสร้างการเรียนรู้เกษตรอินทรีย์ และพัฒนานวัตกรรมที่เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมและวิถีชีวิตของเกษตรกรไทย

ต่อมาในปี 2552 องค์กรได้พัฒนาและจดทะเบียนเป็นบริษัท นวัตกรรมชาวบ้าน จำกัด เพื่อขับเคลื่อนในรูปแบบกิจการเพื่อสังคม (Social Enterprise) โดยให้บริการปัจจัยการผลิตเกษตรอินทรีย์ เช่น ปุ๋ยอินทรีย์ จุลินทรีย์ เมล็ดพันธุ์ พร้อมทั้งสนับสนุนด้านการเงิน การตลาด และระบบรับซื้อผลผลิต เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมครบวงจรที่เอื้อต่อเกษตรอินทรีย์ ผลลัพธ์คือการลดพื้นที่ปนเปื้อนสารเคมี ฟื้นฟูสุขภาพเกษตรกร เพิ่มรายได้ ลดรายจ่าย และสร้างความยั่งยืนทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม

PULSE Social Enterprise (PULSE Clinic) คือเครือข่ายคลินิกชั้นนำด้านสุขภาพแบบไลฟ์สไตล์ในเอเชีย ที่ก่อตั้งขึ้นในกรุงเทพฯ เพื่อให้บริการที่ครบวงจรในด้านการแพทย์การเดินทาง (travel medicine), สุขภาพทางเพศ, การป้องกันโรค, และการดูแลสุขภาพแบบบูรณาการ ผู้ใช้สามารถเข้าถึงบริการเช็คสุขภาพ ตรวจวินิจฉัย และรับคำปรึกษาที่มีมาตรฐานสูงได้ในที่เดียว

PULSE Clinic ขยายสาขาครอบคลุมทั้งในประเทศไทย สิงคโปร์ มาเลเซีย ฮ่องกง และฟิลิปปินส์ โดยเน้นให้บริการ PrEP (ยากัน HIV ก่อนสัมผัส) แก่นักเดินทางกว่า 15,000 คนจากกว่า 130 ประเทศ พร้อมทำงานภายใต้แนวคิดลดอคติและส่งเสริมการเข้าถึงบริการสุขภาพโดยไม่แบ่งแยก ช่วยให้ผู้ใช้บริการรู้สึกใส่ใจ ปลอดภัย และได้รับการดูแลอย่างครบถ้วน

CreativeMOVE คือครีเอทีฟเอเจนซี่เพื่อความยั่งยืน ที่ใช้พลังแห่งการออกแบบและสื่อสารสร้างสรรค์เป็นเครื่องมือในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกทั้งในสังคมและสิ่งแวดล้อม องค์กรตั้งอยู่ในประเทศไทยและทำงานร่วมกับพันธมิตรหลากหลาย ทั้งภาคธุรกิจ องค์กรพัฒนา และชุมชน เพื่อสร้างงานที่ทรงพลังและมีความหมาย

ด้วยแนวคิด “empowering change through creativity” CreativeMOVE สร้างสรรค์ผลงานที่ไม่เพียงสวยงาม แต่ยังส่งสารที่ปลุกให้ผู้คนตระหนักและลงมือดูแลโลกอย่างจริงจัง ผ่านโครงการสื่อสาร สื่อสร้างแรงบันดาลใจ และการออกแบบที่ลดการใช้ทรัพยากร เพื่อให้ความยั่งยืนกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของทุกคน

Art for Cancer by Ireal เป็นธุรกิจเพื่อสังคมจากประเทศไทยที่ก่อตั้งโดย ออย–ไอรีล ไตรสารศรี ผู้เคยป่วยเป็นมะเร็งเต้านมระยะที่ 2 และได้รับแรงบันดาลใจจากประสบการณ์ชีวิตของตน จึงใช้ศิลปะและความคิดสร้างสรรค์เป็นเครื่องมือในการสร้างกำลังใจ เสริมมุมมองเชิงบวก ส่งต่อแรงบันดาลใจ และระดมทุนช่วยเหลือผู้ป่วยมะเร็งผ่าน “ชุดศิลปะดูแลใจ” ซึ่งได้แจกจ่ายให้กับโรงพยาบาลต่าง ๆ พร้อมสานต่อความเชื่อมโยงระหว่างผู้ป่วย จิตอาสา ศิลปิน และสถาบันการแพทย์ต่าง ๆ

องค์กรดำเนินงานภายใต้ธุรกิจเพื่อสังคม (Social Enterprise) ส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยมะเร็งในมิติของกำลังใจ การสร้างรายได้ และการสร้างเครือข่ายการช่วยเหลือ โดยมีจุดหมายในการช่วยเหลืออย่างยั่งยืน ผ่านสินค้า กิจกรรม งานศิลปะ และโครงการต่าง ๆ รวมถึงตั้งกองทุนกับมูลนิธิในโรงพยาบาลรัฐหลักเพื่อสนับสนุนเรื่องค่ารักษาและกิจกรรมเกี่ยวกับมะเร็ง

Small Enterprise Development Co., Ltd. (SED) เป็นองค์กรที่ก่อตั้งในปี พ.ศ. 2539 (1996) โดยสืบเนื่องจากโครงการ Village Banking Project ที่ริเริ่มโดย Catholic Relief Services (CRS) ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2531–2535 เพื่อสนับสนุนการจัดตั้ง “ธนาคารชุมชน” ให้ผู้หญิงในชนบทร่วมกันออมและเข้าถึงสินเชื่ออย่างยั่งยืน โดยในปี 1996 โครงการได้จดทะเบียนเป็นบริษัท SED อย่างเป็นทางการ เพื่อขยายบริการไมโครไฟแนนซ์ทั้งในรูปแบบกลุ่มและบุคคล ในเขตจังหวัดสุรินทร์ บุรีรัมย์ และศรีสะเกษ

ตลอดระยะเวลากว่า 30 ปี SED มุ่งใช้แนวทางการมีส่วนร่วมของชุมชน (participatory approach) ในการส่งเสริมความเข้มแข็งของ “Village Bank” — พร้อมให้บริการสินเชื่อหลากหลาย เช่น สินเชื่อกลุ่ม (Village Bank Loan), สินเชื่อรายบุคคลสำหรับผู้ประกอบการหญิง, สินเชื่อธุรกิจ, และสินเชื่อเปลี่ยนหนี้ในระบบไม่เป็นทางการ (Informal Debt Redemption Loan) ด้วยอัตราดอกเบี้ยที่ยุติธรรมไม่เกิน 15–36% ตามประเภทสินเชื่อ ช่วยให้เกษตรกรและผู้ประกอบการรายย่อยเข้าถึงทุน พัฒนาธุรกิจ และเสริมสร้างความมั่นคงทางการเงินในชีวิตประจำวัน

Moreloop คือแพลตฟอร์มออนไลน์จากกรุงเทพฯ ที่ทำหน้าที่เป็น One-Stop Service เพื่อลดขยะในอุตสาหกรรมแฟชั่น โดยจำหน่ายผ้า surplus จากโรงงานที่เหลือใช้ผ่าน Marketplace สำหรับดีไซเนอร์และผู้ผลิตรายย่อย อีกทั้งยังนำผ้าเหล่านี้มาผลิตสินค้าด้วยแนวคิด Upcycling เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นรูปธรรม

ตั้งแต่ปี 2018 Moreloop ได้ Upcycle กว่า 60,000 กก. ของผ้า surplus ช่วยป้องกันการปล่อย CO₂e เกิน 900,000 กก. ได้เป็นรูปธรรม แตกต่างด้วยการสร้างระบบที่เชื่อมโยงโรงงาน ผู้ซื้อแบรนด์ SME และองค์กร ให้ร่วมกัน “make circular economy a reality” จริงๆ

Opendream ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2550 (2007) เป็นธุรกิจเพื่อสังคมที่ใช้ความเชี่ยวชาญด้านดิจิทัลเพื่อพัฒนาเครื่องมือและนวัตกรรมดิจิทัลที่เน้นตอบโจทย์ประเด็นสำคัญทางสังคม เช่น สุขภาพ การศึกษา และความเป็นอยู่ของประชาชน ผ่านการร่วมมือกับทั้งภาครัฐ ภาควิชาการ และภาคประชาสังคม ไม่ว่าจะเป็น Google, Oxfam GB, Skoll Global Threats Fund และมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ 

องค์กรพัฒนาโครงการหลากหลาย เช่น:
PODD (Participatory One-health Disease Detection) — ระบบเฝ้าระวังโรคติดต่อระหว่างสัตว์และมนุษย์ในชุมชนชนบท โดยใช้ข้อมูลจากชาวบ้าน เพื่อป้องกันการระบาดก่อนลุกลาม 
DoctorMe — แอปพลิเคชันมือถือช่วยให้ผู้ใช้สามารถดูแลสุขภาพตนเองได้อย่างง่ายดายและปลอดภัย
Sabaidee Bot — แชทบอตสำหรับการสังเกตการณ์สุขภาพผ่านการมีส่วนร่วมของประชาชน 
Taejai.com — แพลตฟอร์ม Crowdfunding เพื่อสนับสนุนโครงการดีในสังคมอย่างโปร่งใส 
และโครงการเกมสร้างความรู้ เช่น “Corrupt Game” และ “Judies” ที่เน้นการสร้างสำนึกทางสังคม 

ผลงานของ Opendream ได้รับรางวัลและการยอมรับระดับนานาชาติ เช่น รางวัล ASEAN ICT Awards และการเป็น Finalist ใน MIT Solve และ The Trinity Challenge

Starfish Education คือธุรกิจเพื่อสังคมด้านการศึกษาที่ก่อตั้งในปี 2005 (เริ่มจาก Starfish Country Home School Foundation ในเชียงใหม่) โดยมีเป้าหมายยกระดับคุณภาพการศึกษาสำหรับเด็กทุกคนในประเทศไทย ผ่านการสร้างโอกาสเรียนรู้ที่มีความหมายและเท่าเทียม โดยใช้โปรแกรมเรียนรู้สร้างสรรค์และโซลูชันทางเทคโนโลยี เพื่อแก้ปัญหาช่องว่างทางการศึกษาอย่างยั่งยืน

องค์กรขยายบทบาทผ่านโครงการต่างๆ เช่น Starfish School ที่เน้น Project-Based Learning และ maker-space, Starfish Labz แพลตฟอร์มออนไลน์สำหรับครูและผู้ปกครอง, Starfish Academy ที่พัฒนาครูและโรงเรียน, และ Starfish Learning Hub ที่เปิดพื้นที่เรียนรู้แบบ on-site เพื่อเตรียมผู้เรียนสู่ศตวรรษที่ 21 กิจกรรมเหล่านี้ช่วยส่งเสริมการเรียนรู้ในบริบทจริง พร้อมขับเคลื่อนคุณภาพครูและระบบการศึกษาทั้งประเทศ

YoungHappy คือธุรกิจเพื่อสังคมในประเทศไทย ที่ตั้งเป้าสร้างคอมมูนิตี้ของผู้สูงวัยที่ “สนุก มีคุณค่า และพึ่งพาตัวเองได้” ผ่านการผสมผสานระหว่างแพลตฟอร์มออนไลน์และพื้นที่ทางกายภาพ (Happy Space) เพื่อเชื่อมโยงกลุ่มผู้สูงอายุและสร้างกิจกรรมที่เติมเต็มความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของสังคม

องค์กรส่งเสริมการมีส่วนร่วมอย่างต่อเนื่อง มีกิจกรรมมาแล้วกว่า 800 รายการ และมีสมาชิกผู้สูงวัยมากกว่า 60,000 คนจาก 74 จังหวัด YoungHappy ยังพัฒนารูปแบบการสนับสนุนทั้งออฟไลน์และออนไลน์ เช่น เครื่องมือแพลตฟอร์ม YoungHappy Plus และ Happy Space Plus ที่สร้างพื้นที่ปลอดภัยให้ผู้สูงอายุได้เชื่อมต่อ เรียนรู้ และรู้สึกมีคุณค่าในทุกวัน

Find Folk Co., Ltd. คือธุรกิจเพื่อสังคม (Social Enterprise) และผู้ให้คำปรึกษาด้านการท่องเที่ยวเชิงยั่งยืน (Sustainable Tourism Consultant & Destination Management Organization) ในประเทศไทย โดยมีวิสัยทัศน์ “Sustainable Tourism for the Better” ซึ่งมุ่งสร้างการท่องเที่ยวที่รับผิดชอบต่อสังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อม โดยร่วมออกแบบเส้นทางท่องเที่ยวที่ตอบสนองความต้องการท้องถิ่นอย่างแท้จริง

องค์กรให้บริการครอบคลุมทั้งการให้คำปรึกษาสำหรับการพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน การออกแบบประสบการณ์ท่องเที่ยวแบบร่วมคิด (co-creation) กับชุมชน และการออกแบบกิจกรรม CSR & CSV เพื่อเชื่อมโยงธุรกิจและนักท่องเที่ยวเข้ากับแหล่งทรัพยากรท้องถิ่นอย่างรับผิดชอบ โดยมีรายได้ 70% คืนสู่ชุมชน พร้อมสร้างรายได้ในพื้นที่กว่า 20 ล้านบาท จากการทำงานร่วมกับชุมชนกว่า 50 แห่ง

เป็นแหล่งเรียนรู้ด้านวิชาการ เพื่อศึกษาวิจัยเชิงคลินิก พฤติกรรมศาสตร์ และขยายผลสู่การปฎิบัติการป้องกันและรักษาเอชไอวีและประเด็นสุขภาพเร่งด่วนอื่นๆ

ให้บริการสุขภาพ ให้คำปรึกษาและตรวจคัดกรองกลุ่มเป้าหมายที่มีความเสี่ยงด้านเอชไอวี ศึกษาวิจัยเชิงคลินิก และพฤติกรรมศาสตร์ เป็นแหล่งเรียนรู้แลกเปลี่ยนข้อมูลและนวัตกรรมใหม่ๆเพื่อให้บริการสุขภาพ รวมไปถึงเสริมสร้างศักยภาพให้กับหน่วยบริการสาธารณสุขนำโดยกลุ่มประชากรหลักที่ได้รับผลกระทบ ร่วมกับองค์กรเอกชน หน่วยงานภาครัฐ และกิจการเพื่อสังคม ในการนำนวัตกรรมจากงานวิจัยไปใช้ในการแก้ไขปัญหาเอชไอวี และประเด็นสุขภาพอื่นๆ

Dairy Home คือวิสาหกิจเพื่อสังคมในภาคการผลิตผลิตภัณฑ์นมจากฟาร์มออร์แกนิคที่ยั่งยืน มุ่งมั่นปล่อยคาร์บอนให้ต่ำสุด หรือ Net Zero Carbon ในการดำเนินธุรกิจ พร้อมมุ่งสู่เป้าหมาย “Happy farms, Happy cows” ด้วยการร่วมงานกับฟาร์มครอบครัวท้องถิ่นที่ปลอดสารเคมี ให้เกิดระบบนิเวศน์ออร์แกนิคอย่างแท้จริง

ผลิตภัณฑ์ของ Dairy Home มีหลากหลาย ทั้ง นมพาสเจอร์ไรส์, โยเกิร์ต, เนยออร์แกนิค, ขนมปังทำเอง, และ นมเม็ด (Milk Tablets) ซึ่งพร้อมจัดส่งถึงหน้าบ้านด้วยรถควบคุมอุณหภูมิ เพื่อรักษาคุณภาพและความสดใหม่ของผลิตภัณฑ์
Dairy Home

นอกจากนี้ Dairy Home ยังมีร้านอาหารในพื้นที่ฟาร์มที่เปิดให้นักท่องเที่ยวและลูกค้าได้สัมผัสประสบการณ์ “from farm to table” อย่างใกล้ชิด รวมถึงกิจกรรมเพื่อสังคมเช่นร่วมปลูกต้นไม้และช่วยเหลือชุมชน ที่สะท้อนถึงจิตวิญญาณของ “WE ♥ LOCAL, WE’RE SOCIAL”

Dao Ethical Gifts คือธุรกิจเพื่อสังคมในประเทศไทย ที่สร้างสรรค์โซลูชันงานของขวัญและสื่อส่งเสริมแบรนด์แบบยั่งยืน ผ่านการออกแบบผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น สินค้าอัพไซเคิลและวัสดุที่ตรวจสอบแหล่งที่มาได้อย่างชัดเจน โดยผลิตภัณฑ์ทั้งหมดออกแบบและผลิตโดยผู้หญิงจากชุมชนเปราะบาง เพื่อส่งเสริมความมั่นคงทางเศรษฐกิจและความภาคภูมิใจในตนเอง

องค์กรดำเนินงานภายใต้การสนับสนุนของ Baan Dek Foundation ซึ่งให้การอบรมด้านทักษะอาชีพ เช่น การตัดเย็บ การควบคุมคุณภาพ และงานระบบการผลิต ตลอดจนการให้คำปรึกษาด้านการเงินและการตั้งเป้าหมายชีวิต เป้าหมายคือการช่วยให้แม้ผู้หญิงที่อยู่ในชุมชนเปราะบางสามารถเลิกวงจรความยากจนและความรุนแรงได้อย่างยั่งยืน

SC GRAND ผู้นำด้านการเปลี่ยนแปลงผ้าเหลือใช้และเศษสิ่งทอให้กลายเป็นผ้าและผลิตภัณฑ์ใหม่ผ่านกระบวนการรีไซเคิลเชิงกลที่ไม่จำเป็นต้องฟอกหรือย้อม (mechanical recycling) ซึ่งช่วยลดการใช้ทรัพยากรน้ำ พลังงาน และการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ พร้อมได้รับการรับรองมาตรฐานระดับสากล เช่น GRS, GOTS, OEKO-TEX และจาก TGO (Thailand Greenhouse Gas Management Organization) ที่รับรองว่าผ้าของ SC GRAND ทำจากวัสดุที่ยั่งยืนโดยสมบูรณ์

SC GRAND ดำเนินโมเดลเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ด้วยบริการหลากหลาย เช่น:
Sustainable Textile — ผลิตผ้าจากวัสดุรีไซเคิล เช่น เศษผ้า เครื่องแบบเก่า และเส้นใยเหลือใช้จากโรงงาน
Closed Loop — โปรแกรมรับผ้าเก่าหรือเศษผ้ามารีไซเคิลกลับเป็นผ้าใหม่
Circular OEM — รับผลิตผ้าหรืองานสำเร็จรูปตามสเปกลูกค้า โดยออกแบบรูปแบบ โทนสี วัสดุ ฯลฯ

จนถึงปี 2023 SC GRAND รีไซเคิลเศษผ้าได้ประมาณ 400 ตันต่อเดือน ช่วยลดการใช้น้ำกว่า 2.1 ล้าน ลบ.ม. ต่อปี และลดการปล่อยก๊าซ CO₂ ได้กว่า 18,000 ตันต่อปี อีกทั้งติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ขนาด 1 เมกะวัตต์เพื่อใช้พลังงานหมุนเวียน

Greenery คือแพลตฟอร์มออนไลน์ที่ริเริ่มโดยกลุ่มคนรุ่นใหม่ มีความถนัดในการใช้สื่อร่วมสมัยเพื่อขับเคลื่อนสังคมผ่านสาระความรู้ แนวคิดสร้างสรรค์ และแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิตที่เชื่อมโยงกับโลกใบนี้ โดยมีเป้าหมายหลักในการสร้างเครือข่ายของผู้บริโภคอาหารปลอดภัย ผ่านการสื่อสารที่เข้าใจง่าย บนพื้นที่ออนไลน์ที่เข้าถึงได้สะดวก เรากินดี เราอยู่เขียว (eat good. live green) คือแนวคิดหลักที่สะท้อนวิสัยทัศน์ขององค์กร—คือเชื่อว่าแม้ในชีวิตที่มีข้อจำกัดหลากหลาย ทุกคนควรมีความใส่ใจในการเลือกกินอาหารดี ปลอดภัย ออกกำลังกาย และปกป้องสิ่งแวดล้อมเพื่อสุขภาพชีวิตที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

De Quarr เป็นกิจการเพื่อสังคมในจังหวัดเชียงใหม่ ที่มุ่งสร้างช่องทางการผลิตและจำหน่ายสินค้าหัตถกรรมชุมชนให้มีคุณภาพสูงและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะกลุ่มชาติพันธุ์ภาคเหนือ ซึ่งมีเครือข่ายร่วมงานกับกว่า 200 ชุมชนทั่วประเทศ ด้วยเป้าหมายที่จะสืบทอดภูมิปัญญาท้องถิ่นและส่งเสริมรายได้ให้ชุมชนอย่างยั่งยืน

De Quarr ผลิตสินค้าหัตถกรรม เช่น ผ้า ทอ เสื้อผ้า กระเป๋า เครื่องประดับ และของตกแต่งบ้าน ที่ผสมผสานการออกแบบสมัยใหม่เข้ากับวัตถุดิบท้องถิ่นอย่างเช่น ผ้าย้อมคราม หรือสีจากเปลือกไม้ และยังใช้แนวทาง Upcycling โดยนำผ้าที่เหลือหรือเส้นใยท้องถิ่นมาสร้างสรรค์เป็นงานใหม่ ลดของเสียและเพิ่มคุณค่าให้กับทรัพยากร

เยือนเย็น คือวิสาหกิจเพื่อสังคมที่ให้บริการดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้ายแบบประคับประคอง (Palliative Care หรือ “ชีวาภิบาล”) ที่บ้านตามแนวคิด “อยู่สบาย ตายสงบ” โดยมุ่งเติมเต็มคุณภาพชีวิตให้ผู้ป่วยและครอบครัว ไม่ต้องผ่านกระบวนการรักษาที่เจ็บปวดในโรงพยาบาล

ก่อตั้งโดย ศ. ดร. นพ.อิศรางค์ นุชประยูร แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านมะเร็งและชีวาภิบาลแห่งจุฬาฯ ซึ่งรับรู้ว่าบางครั้งการต่อสู้เพื่อขยายชีวิตนั้นอาจแลกมาด้วยความทุกข์ จึงสร้างทางเลือกใหม่ที่เน้นคุณภาพชีวิตดูแลในบ้าน บรรเทาอาการและดูแลทั้งกาย ใจ สังคม และจิตวิญญาณ
มูลนิธิเครือข่ายมะเร็ง

เยือนเย็นดำเนินงานในลักษณะวิสาหกิจเพื่อสังคมที่ไม่หวังผลกำไร รายได้หลักมาจากค่าบริการตามกำลังของผู้ป่วยหรือบริจาคจากผู้สนับสนุน ใครมีมากจ่ายมาก ใครมีน้อยจ่ายน้อย และยังรับบริจาคเพื่อนำไปช่วยเหลือครอบครัวที่ไม่สามารถจ่ายได้

ธรรมธุรกิจ เกิดจากแรงบันดาลใจของคุณหนาว – พิเชษฐ โตนิติวงศ์ เจ้าของโรงสีศิริภิญโญ จ.ฉะเชิงเทรา ที่ได้คำนี้มาตั้งแต่ครั้งอุปสมบทเป็นพระภิกษุเมื่อปี พ.ศ. 2541 ที่วัดป่านาคำน้อย โดยมีหลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก เป็นพระอุปัชฌาย์ การบวชเรียนครั้งนั้นไม่เพียงทำให้เข้าใจหลักธรรมและความหมายของชีวิต แต่ยังทำให้เกิดคำถามสำคัญว่า “ชีวิตที่เหลือจะทำอะไร เพื่อให้เหลือชาติที่ต้องกลับมาเกิดน้อยที่สุด” จนได้คำตอบว่า “ให้เอาธรรมไปนำธุรกิจ” และตั้งใจว่าไม่ว่าทำกิจการใดจะใช้ชื่อ ธรรมธุรกิจ เป็นหลัก

จากแนวคิดนี้จึงต่อยอดสู่การทำงานด้านเกษตรอินทรีย์ โดยมีจุดเริ่มสำคัญเมื่อวันที่ 3 มกราคม 2556 ที่เชียงใหม่ ซึ่งคุณหนาวได้พบกับอาจารย์ยักษ์และพี่โจน และเกิดการท้าทายว่าจะพิสูจน์ให้เห็นว่าการทำนาโดยไม่ใช้สารเคมีสามารถให้ผลผลิตต่อไร่ไม่ลดลงตั้งแต่ครั้งแรกได้จริง จึงเกิดการฝึกอบรมชาวนาในโครงการธรรมธุรกิจครั้งแรกที่ศูนย์กสิกรรมธรรมชาติมาบเอื้อง จ.ชลบุรี ในเดือนมิถุนายน 2556 แม้เริ่มแรกจะมีผู้เข้าร่วมกว่า 90 คน แต่สุดท้ายเหลือเพียง 50 คนที่ทำครบหลักสูตร และมี 16 คนที่เริ่มทำนาธรรมชาติจริงจัง ผลปรากฏว่าข้าวที่ได้ไม่ต่างจากเดิม ถือเป็นหมุดหมายสำคัญที่ยืนยันแนวทางว่า “ธรรมธุรกิจ” คือการใช้ธรรมะมานำการทำธุรกิจและเกษตร เพื่อสร้างความยั่งยืนแก่ชาวนาและสังคมไทย

Toolmorrow คือธุรกิจเพื่อสังคมในประเทศไทยที่อยู่นโยบายลงทะเบียนอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 30 กันยายน 2565 โดยก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2557 โดยคุณสุรเสกข์ ยุทธิวัฒน์ ด้วยวิสัยทัศน์ท้าทายความเชื่อทางสังคมผ่านการเล่าเรื่องที่ทรงพลัง เช่น วิดีโอ Social Experiment, Comparison, Interview, ภาพยนตร์สั้น และภาพยนตร์สั้นแบบอินเตอร์แอคทีฟ

Toolmorrow ยังพัฒนาแพลตฟอร์ม Share & Care — เครื่องมือเรียนรู้ออนไลน์ที่ปลอดภัย ใช้งานง่าย และเชื่อถือได้ — สนับสนุนโดยเครือข่ายกว่า 70 องค์กร เพื่อต่อยอด “Turn Viewers Into Changemakers” ด้วยเป้าหมายที่จะกระตุ้นให้ผู้ชมกลายเป็นผู้สร้างการเปลี่ยนแปลงที่แท้จริงในสังคม และทำให้ความรู้ถูกนำไปปฏิบัติจริง

Happy Life Happy Thailand เป็นธุรกิจเพื่อสังคมหรือกิจกรรมออนไลน์ในประเทศไทย ที่มุ่งส่งเสริมให้ชุมชนเสริมศักยภาพและสร้างภูมิคุ้มกันทางความคิด (Mindset Resilience) เพื่อให้สามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน พร้อมสร้างความสุขผ่านแนวคิด Life Coaching และการขับเคลื่อนความสุขในชุมชนอย่างมีระบบ

องค์กรใช้กระบวนการโค้ชชิ่ง Life Coaching เพื่อส่งต่อ “ทักษะความสุข” ในรูปแบบกิจกรรมเพื่อสังคม (Social Enterprise) ร่วมกับหน่วยงานภาคี เช่น #SCG, #MissionEarth, #พัฒนาชุมชนเข้มแข็ง จ.ระยอง เพื่อสร้างพลเมืองที่เข้มแข็งและนำสุขกลับสู่ชุมชนอย่างเป็นรูปธรรม

Doi Kham Food Products Co., Ltd. ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2537 โดยสถาบันทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ ภายใต้พระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เพื่อจัดตั้งหน่วยธุรกิจที่ซื้อผลผลิตจากโครงการหลวงและเกษตรกรในราคายุติธรรม และจำหน่ายผลิตภัณฑ์คุณภาพสู่ประชาชนในวงกว้าง

องค์กรมุ่งมั่นผลักดันแนวคิด “เกษตรเพื่อชุมชน ผลิตผลเพื่อคนไทย” โดยส่งเสริมการพัฒนาชุมชนผ่านการแปรรูปผลผลิตทางการเกษตรในพื้นที่ภาคเหนือ เช่น มะเขือเทศ ผลไม้ ผลิตภัณฑ์แปรรูป และสินค้าอื่นๆ กว่า 200 รายการ รวมถึงเครื่องดื่ม น้ำผัก, น้ำผลไม้, แยม, ผลไม้อบแห้ง, น้ำผึ้ง ฯลฯ

นอกจากนี้ ยังมีโรงงานผลิตในจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย และสกลนคร พร้อมร้านค้าดอยคำมากกว่า 30 สาขา และแฟรนไชส์ Doi Kham Family อีกหลากหลายแห่งทั่วประเทศ

บริษัท สังคมดี วิสาหกิจเพื่อสังคม จำกัด หรือ Social Good ก่อตั้งขึ้นในปี 2561 เพื่อเป็นศูนย์พัฒนาศักยภาพและการเรียนรู้ให้กับเด็กที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน สมาธิสั้น และเด็กออทิสติก ผ่านการใช้ศิลปะการปั้นดินเบา (Clay Therapy) ช่วยยืดระยะสมาธิ, ลดความรุนแรงทางอารมณ์ และบรรเทาความวิตกกังวลได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ภายหลังองค์กรพัฒนาตนเองไปเป็นศูนย์ฝึกอาชีพให้กับคนพิการทุกประเภท โดยมีหลักสูตรฝึกอบรมที่รับรองจากกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน รวมทั้งส่งเสริมโอกาสให้คนพิการมีอาชีพที่มั่นคง มีรายได้ และสามารถมีส่วนร่วมในระบบเศรษฐกิจได้อย่างเท่าเทียมและยั่งยืน โดยไม่เพียงเป็นผู้รับความช่วยเหลือ แต่กลายเป็นผู้สร้างคุณค่าให้กับสังคม

ECOLIFE คือแพลตฟอร์ม Engagement Platform จากบริษัท KIDKID Co., Ltd. ในกรุงเทพฯ ที่ออกแบบมาเพื่อกระตุ้นให้บุคลากรองค์กรเกิดพฤติกรรมที่ดีต่อสังคม สิ่งแวดล้อม และวัฒนธรรมองค์กร ผ่านเครื่องมือที่ช่วยส่งเสริม การมีส่วนร่วม และสนุกสนานในการเรียนรู้ แนวคิดมุ่งสร้างสังคมยั่งยืนในที่ทำงานและชุมชน
ด้วยฟีเจอร์ครบครัน เช่น การเก็บและแสดงสถิติพฤติกรรมต่างๆ—เช่น การแยกขยะ, ลดพลาสติก, ปลูกต้นไม้, ประหยัดพลังงาน ฯลฯ—ECOLIFE ยังช่วยให้สามารถนำข้อมูลเหล่านี้ไปใช้ในการประชาสัมพันธ์ วิเคราะห์ ผลักดันวัฒนธรรมองค์กร และปรับปรุงการดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพ

Buddy HomeCare เป็นธุรกิจเพื่อสังคมในประเทศไทย ดำเนินงานโดยมูลนิธิพัฒนาคนชรา (FOPDEV) มีพันธกิจที่ออกแบบมาเพื่อดูแลผู้สูงอายุอย่างมืออาชีพและเข้าถึงได้ง่าย ด้วยระบบ home care ที่ใช้เทคโนโลยีเชื่อมโยงระหว่างผู้สูงอายุกับผู้ให้การดูแลภายในชุมชน โดยมีแอปพลิเคชันช่วยวางแผนการดูแล วัดสัญญาณสุขภาพ และแจ้งเตือนเมื่อพบค่าผิดปกติ ระบบนี้ช่วยให้การดูแลเกิดประสิทธิภาพและสามารถเข้าถึงได้จริง

นอกจากนี้ Buddy HomeCare ยังสร้างโอกาสให้เยาวชนที่ขาดแคลนได้รับการอบรมให้เป็นผู้ดูแลผู้สูงอายุ (caregivers) โดยร่วมมือกับมหาวิทยาลัยเชียงใหม่และเครือข่ายอาสาสมัครชุมชน โดยจัดฝึกอบรม 3 เดือน จนมีเยาวชนเข้าร่วมกว่า 35 คนและถูกจ้างงานจริง และยังพัฒนาระบบที่เป็นทั้งโมเดลธุรกิจและสังคมที่ยั่งยืน

Jasberry คือธุรกิจเพื่อสังคมที่ต้องการแก้ไขปัญหาความยากจนของเกษตรกรชาวนาไทย ด้วยการสร้างมูลค่าผ่านผลิตภัณฑ์ข้าวอินทรีย์ที่มีคุณค่าทางอาหารสูง — โดยเฉพาะ Jasberry rice ซึ่งเป็นข้าวพันธุ์ใหม่ที่พัฒนาโดยนักวิทยาศาสตร์ไทย มีสีม่วงจากสารแอนโธไซยานิน อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่สูงกว่าข้าวทั่วไปหลายเท่า และเป็น non-GMO, certified organic ทั้ง USDA และ EU

ปัจจุบัน Jasberry ร่วมมือกับเกษตรกรรายย่อยกว่า 2,500 ครอบครัว โดยนำเมล็ดพันธุ์คุณภาพสูง ให้ใช้ปุ๋ยอินทรีย์ และให้คำแนะนำด้านการปลูก การเก็บเกี่ยวด้วยมือ และการแปรรูปเพื่อเพิ่มรายได้ให้มากกว่าเดิมอย่างมีนัยสำคัญ เช่น รายได้รายวันเพิ่มจาก 0.40 USD เป็นราว 6 USD ขณะผลผลิตเพิ่มขึ้น 60% ต่อปี และต้นทุนลดลง 25% ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา

Jasberry ได้รับการรับรองทางธุรกิจด้านความยั่งยืน เช่น B Corp Certification และเป็นหนึ่งใน 15 องค์กรแรกในประเทศไทยที่ได้รับการรับรองว่าเป็นวิสาหกิจเพื่อสังคมโดยรัฐบาล

ผลิตภัณฑ์ของ Jasberry — โดยเฉพาะข้าว Superfood — มีสารต้านอนุมูลอิสระมากกว่า: 40 เท่าของข้าวกล้อง, 7 เท่าของเคล, และ 4 เท่าของควินัว — และเป็น “superfood” ที่คงความอร่อยและทำง่าย

มูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ก่อตั้งในปี พ.ศ. 2515 โดยสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชนนีนาถ (สมเด็จพระพันปีหลวง) ในฐานะ Thai Hill Crafts Foundation ปัจจุบันดำเนินงานภายใต้พระอุปถัมภ์ของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้ากรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เป้าหมายคือพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้คนที่ขาดโอกาส ผ่านโครงการพัฒนาชุมชนแบบบูรณาการ โดยใช้แนวคิด “ช่วยให้คนพึ่งพาตนเองได้”

โครงการสำคัญอย่าง Doi Tung Development Project คือหนึ่งในต้นแบบการพัฒนาเศรษฐกิจชุมชนอย่างยั่งยืน (SALD) ซึ่งได้ผลักดันให้เกิดรายได้หลายด้าน ทั้งเกษตร, งานคราฟต์, และการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม โดยโครงการสามารถพึ่งพาตนเองทางการเงินได้ (financially independent) และหุ้นส่วน DoiTung Brand เป็นกลไกสำคัญในการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ชุมชน

มูลนิธิฯ ยังพัฒนารูปแบบ Nature-Based Solutions เช่น การฟื้นฟูป่า, การจัดการน้ำ, และแปลงพื้นที่เศรษฐกิจ เช่น โครงการต้นน้ำหลายโครงการ และสนับสนุนชุมชนในการปกป้องพื้นที่ป่าและลดก๊าซเรือนกระจก
maefahluang.org

นอกจากนี้ยังดำเนินงานพัฒนาในพื้นที่ต่างประเทศหลายโครงการ เช่น พม่า, อัฟกานิสถาน, อินโดนีเซีย ภายใต้โมเดล SALD ที่ชุมชนเป็นศูนย์กลาง

มูลนิธิโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ดำเนินงานภายใต้โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร จังหวัดปราจีนบุรี ภายใต้พระอุปถัมภ์ของสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี มุ่งพัฒนาและส่งเสริมผลิตภัณฑ์จากภูมิปัญญาสมุนไพรไทย เพื่อสร้างสุขภาพที่ดีและยั่งยืนให้กับชุมชน โดยใช้หลักการ “ทำคน สุขภาพดี รายได้ชุมชน เสริมสังคม”

มูลนิธิส่งเสริมความพึ่งพาตนเองด้านยาสมุนไพรไทย อนุรักษ์ภูมิปัญญาไทย และสร้างเศรษฐกิจชุมชนอย่างมีคุณค่า ภายใต้แนวคิด Sustainable Development Goals ด้านการลดความยากจน สุขภาพ และการเติบโตทางเศรษฐกิจ

ในภาวะวิกฤต เช่น อุทกภัย, มูลนิธิฯ ยังทำงานช่วยเหลือชุมชน เช่นมอบสิ่งของบรรเทาความเดือดร้อนให้ผู้ประสบภัย
นอกจากนี้ยังนำสมุนไพรโบราณ เช่น ใบพลูและดอกไม้หอม ช่วยบรรเทากลิ่นศพในเหตุการณ์ชายขอบเพื่อบรรเทาความทุกข์ได้ด้วย

Local Alike เป็นธุรกิจเพื่อสังคมก่อตั้งในปี 2013 ที่ใช้รูปแบบการท่องเที่ยวโดยชุมชน (Community-Based Tourism) เป็นเครื่องมือพัฒนาเศรษฐกิจและคุณภาพชีวิตของชุมชนชนบทและกลุ่มเปราะบาง ด้วยการช่วยชุมชนวางแผน สร้างทักษะ และพัฒนาธุรกิจท่องเที่ยวของชุมชนโดยตรง

องค์กรร่วมมือกับชุมชนกว่า 200 แห่งใน 46 จังหวัด ครอบคลุมมากกว่า 60 จังหวัดทั่วประเทศไทย โดยมีแนวปฏิบัติ “70/30” คือรายได้ 70 % กลับคืนสู่ชุมชน ขณะที่ 30 % เป็นค่าบริหารจัดการของ Local Alike

Local Alike ยังมีรูปแบบการให้บริการเชิงสร้างสรรค์มากมาย เช่น ทริปท่องเที่ยวด้วยเรือพลังงานแสงอาทิตย์ งานคราฟต์ การเข้าไปช่วยในกิจกรรมพัฒนาชุมชน (Voluntourism) และกิจกรรมด้านอาหารท้องถิ่น (Local Aroi) รวมถึงแพลตฟอร์มจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากชุมชน (Local Alot)

องค์กรมีประสบการณ์พัฒนาอย่างลึกซึ้ง ทำงานร่วมกับชุมชนเป็นระยะเวลา 3–5 ปีเพื่อสร้างความยั่งยืนและให้ชุมชนสามารถบริหารจัดการธุรกิจของตนเองได้

Socialgiver เป็นแพลตฟอร์มธุรกิจเพื่อสังคมที่ให้ผู้บริโภคสามารถ “ช็อปและช่วย” ได้ในคราวเดียว โดยรวมดีลจากโรงแรม ร้านอาหาร และกิจกรรมต่าง ๆ ที่เป็นพันธมิตร พร้อมบริจาคส่วนหนึ่งของรายได้ (70% ตามแผนบางเวอร์ชัน หรือ 50% ในกรณีของแคมเปญ Meaningful Travel) ให้กับโครงการด้านสังคมและสิ่งแวดล้อมที่ได้รับการคัดเลือกอย่างใส่ใจ

แพลตฟอร์มนี้ก่อตั้งในปี 2013 หรือราวปี 2015 (มีการระบุทั้งสองปี) และมีพนักงานจำนวนและรับรางวัลเป็นองค์กรธุรกิจเพื่อสังคมชั้นนำ เช่น Thai Social Enterprise Award, The Venture (Thailand), ASEAN Impact Challenge ฯลฯ

a-chieve คือธุรกิจเพื่อสังคมในประเทศไทยที่มุ่งส่งเสริมให้นักเรียนค้นพบ “อาชีพที่ใช่ ชีวิตที่ชอบ” ผ่านเครื่องมือแนะแนวออนไลน์ที่ครอบคลุมทั้งการรู้จักตนเอง วางแผนอาชีพ และดูแลอารมณ์ โดยมีเป้าหมายสร้างสังคมที่ทุกคนสามารถทำในสิ่งที่รัก พร้อมส่งต่อคุณค่าให้สังคมต่อไป

แพลตฟอร์มของ a‑chieve มีเครื่องมือและกระบวนการสำคัญ เช่น:
เครื่องมือออกแบบเส้นทางชีวิต 3 ขั้นตอน: วิเคราะห์ตัวเอง → ประเมินอาชีพ → วางแผนชีวิต
คลังข้อมูลอาชีพออนไลน์ที่ครอบคลุมหลายสายอาชีพ
กิจกรรมแนะแนวออนไลน์หลายรูปแบบ เช่น Career Shortcut, Openworld และ Job Shadow
บทความ “how to ดูแลใจ” และเครื่องมือสำรวจอารมณ์
ทั้งหมดนี้ช่วยให้นักเรียนสำรวจตัวเองและวางแผนอนาคตได้อย่างมั่นใจ และยังสนับสนุนครูในการจัดการเรียนการสอนแนะแนวได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Folkcharm ก่อตั้งขึ้นในฐานะโครงการเพื่อสังคมในปี 2014 และจดทะเบียนในปี 2016 โดย Passawee T. Kodaka นักพัฒนาสังคมที่ผันตัวมาเป็นนักออกแบบแฟชั่นที่ใส่ใจความยั่งยืน เธอตั้งใจใช้ธุรกิจสร้างโอกาสให้ชุมชนหัตถกรรมไทย ผ่านการร่วมงานกับกลุ่มเกษตรกรปลูกฝ้ายอินทรีย์ ช่างทอผ้าในจังหวัดเลย ช่างตัดเย็บในกรุงเทพฯ และกลุ่มช่างฝีมือในชุมชนอื่น

Folkcharm ผลิตเสื้อผ้า เครื่องประดับ และผืนผ้าโทนเซ็นประณีต ด้วยวัตถุดิบเป็นฝ้ายธรรมชาติปลอดสารเคมีจากในประเทศ ผ่านกระบวนการทอมือ ย้อมสีธรรมชาติ และปรับงานให้เข้ากับยุคสมัย พร้อมถ่ายทอดสุนทรียะแบบ slow fashion ให้ผู้บริโภคได้ใส่ใจเรื่องความหมายและคุณค่า

หลักการทำงานของ Folkcharm มุ่งเน้นใน 3 ค่านิยมสำคัญ ได้แก่:
Fairness (ความยุติธรรม) — ให้ค่าตอบแทนอย่างเหมาะสมแก่ช่างฝีมือและดูแลสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของผู้เกี่ยวข้อง
Mutual Interest (ผลประโยชน์ร่วมกัน) — สนับสนุนให้ชุมชนอยู่ร่วมกับธุรกิจได้อย่างยั่งยืน
Opportunities (โอกาส) — มอบสินค้าหรือวัสดุให้แบบ “ไม่เสียดอกเบี้ย” พร้อมฝึกทักษะ การออกแบบ และเข้าถึงตลาด